ศึกกลางแยกไฟแดง หนุ่มรัวหมัดต่อยคนแปลกหน้าสาหัส อ้างโมโหถูกยิงก่อน

ศึกกลางแยกไฟแดง หนุ่มรัวหมัดต่อยคนแปลกหน้าสาหัส อ้างโมโหถูกยิงก่อน

ศึกกลางแยกไฟแดง หนุ่มรัวหมัดต่อยคนแปลกหน้าสาหัส อ้างโมโหถูกยิงก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(3 ต.ค.62) เมื่อเวลา 23.00 น. ร.ต.อ.อำนาจ สายเครือปัน รอง.สวป.สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง เร่งตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ ภายหลังรับแจ้งว่า เกิดเหตุทะเลาะใช้อาวุธปืนยิงกัน บริเวณแยกไฟแดงหน้าวัดท่าคราวน้อย ถ.ท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย

ที่เกิดเหตุพบชาย 1 คน ได้รับบาดเจ็บ มีเลือดไหลออกใบหน้า นอนร้องครวญครางอยู่กลางถนน อาการค่อนข้างสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือ ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.ลำปาง และยังพบว่าปลายเท้ามีปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 แบบนัดเดียวตกอยู่ ตรวจค้นในกระเป๋าพบเงินสดจำนวนหนึ่ง ลูกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 ลูก ทราบชื่อต่อมาคือ นายเอกรินทร์ อายุ 41 ปี 

และในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ถูกกระสุนปืนยิงถากเข้าบริเวณต้นขาด้านขวา เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาล ห้ามเลือด ทราบชื่อต่อมาคือ นายนพดล อายุ 35 ปี ได้อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนและได้ขับรถจยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟสีเทา เพื่อกลับบ้านพักมาตามถนนท่าคราวน้อย และได้จอดติดไฟแดงรอเลี้ยวขวาในที่เกิดเหตุ

และพบนายเอกรินทร์ ซึ่งไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ได้ขับรถจยย.ยี่ห้อยามาฮา รุ่นคลิ๊ก สีดำ-ขาว ข้ามสะพานแม่น้ำวัง ที่มาจากถนนบ้านดง ได้จอดติดไฟแดงคนละฝั่งห่างกันประมาณ 10 เมตร แล้วได้ชักปืนมาข่มขู่

ตนเองเห็นท่าไม่ดี พยายามที่จะขับรถเบี่ยง แต่เมื่อเห็นเล็งปืนมาที่ตนเอง จึงได้เบี่ยงตัวหลบ กระสุนจึงถูกแบบถากๆ ก่อนที่รถของนายเอกรินทร์ ล้มลงพื้นถนน ด้วยความโมโหจึงได้เข้าไปเตะต่อยไปหลายหมัด จนทำให้นายเอกรินทร์ ได้รับบาดเจ็บเลือดออกใบหน้า และยอมรับว่าตนเองก็เมาเช่นกัน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่รพ.เพื่อจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง หากนายเอกรินทร์ อาการดีขึ้น พร้อมให้การกับเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความเป็นธรรม และจะได้ตรวจสอบหาหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่แยกไฟแดงดังกล่าว  และได้ตรวจยึดปืนกระบอกดังกล่าว ว่าเป็นปืนมีทะเบียนหรือปืนเถื่อน เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook