แม่นักศึกษา ม.ดัง เชียงใหม่ เผยทั้งน้ำตา ลูกยอมลาออก หลังโดนรุ่นพี่ซ้อมอ่วม
หญิงอายุ 43 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน จ.เชียงใหม่ ที่ตกเป็นเหยื่อการรับน้อง เผยว่า ลูกชายยอมลาออกจากมหาวิทยาลัย ทั้งที่ยังเรียนไม่จบ เพราะทนไม่ไหวที่ถูกรุ่นพี่รับน้องด้วยความรุนแรง และหวังว่า หลังจากนี้จะไม่มีใครต้องเจอเรื่องแบบเดียวกับลูกชายของตน
>> แฉ ม.ดัง เชียงใหม่ รับน้องโหด ไม้หน้าสามห่อผ้าฟาด-มีผู้หญิงถูกตีจนขาหัก
แม่ของนักศึกษาคนดังกล่าว เล่าต่อไปว่า ลูกชายของตน สอบเข้าเรียนสาขาประมง และเพิ่งเข้าเรียนเทอมแรกของปีการศึกษา 2562 ในช่วงที่เปิดเทอมได้ผ่านการรับน้องของมหาวิทยาลัยไปแล้ว อย่างไรก็ตามต่อมายังคงมีการรับน้องโดยรุ่นพี่สาขาประมงอีก ซึ่งที่จริงแล้วลูกชายโดนรุ่นพี่รับน้องด้วยความรุนแรงมาช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่ยอมบอกพ่อแม่
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงค่ำ ของวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา รุ่นพี่ได้จัดกิจกรรมรับน้องประจำสาขาอีก และลูกชายที่ถูกสั่งให้นอนคว่ำหน้าถูกทำร้ายด้วยการชกหรือใช้มือทุบที่หลังอย่างแรงหลายครั้ง จนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจไม่ร่วมรับน้องต่อไป
จากนั้นได้กลับไปที่หอพักแล้วให้เพื่อนร่วมห้องถ่ายภาพร่องรอยการถูกทำร้ายส่งมาให้พ่อแม่ดู แต่เนื่องจากเวลานั้นเป็นช่วงดึกแล้ว พ่อแม่จึงเดินทางไปรับตัวลูกชายในวันรุ่งขึ้น (5 ต.ค.) แล้วพาตัวไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวไปให้แพทย์ทำการตรวจร่างกายและพบว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายจริง จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
มหาวิทยาลัยดำเนินการล่าช้า-สภาพจิตใจลูกชายบอบช้ำ
แม่ของนักศึกษาคนนี้ เล่าอีกว่า ตำรวจแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้มหาวิทยาลัยทราบ และผู้บริหารมหาวิทยาลัย พร้อมด้วยตัวแทน ได้มาพูดคุยเจรจาและรับปากว่าจะเร่งดำเนินการสอบสวนติดตามหาตัวผู้ที่ก่อเหตุมาลงโทษ ซึ่งทางพ่อแม่มีความเชื่อมั่นว่าทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการอย่างจริงจัง แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่ลูกชายหวาดกลัวและสภาพจิตใจย่ำแย่มาก จนตัดสินใจยื่นใบลาออกจากการเป็นนักศึกษาแล้ว แต่มหาวิทยาลัยยังไม่อนุมัติ
>> จ่อออกหมายเรียกรุ่นพี่โหด รับน้องปี 1 ด้วยไม้หน้าสาม อ้างเป็นประเพณีสืบทอด
พึ่งพาโซเชียลมีเดียให้กดดัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 พ.ย.) เพจเฟซบุ๊คชื่อ "รับน้องสร้างสรรค์ระดับโคตรมหากาฬ" โพสต์ภาพบันทึกหน้าจอที่เป็นข้อความการสนทนากันระหว่างผู้ปกครองและนักศึกษาคนดังกล่าว ที่มีรูปแผ่นหลังเต็มไปด้วยบาดแผลรอยฟกช้ำดำเขียว ขึ้นมา ทำให้ผู้คนในโลกโซเชียลแชร์ต่อเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วและมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
เหตุนี้ทำให้มหาวิทยาลัยแถลงเมื่อวันต่อมา (2 พ.ย.) ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด และหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
"เบื้องต้นมหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง พบว่ามีนักศึกษากลุ่มหนึ่งไปทำกิจกรรมภายนอกมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต อยู่นอกเหนือจากกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยกำหนด ซึ่งเป็นการกระทำเกิดกว่าเหตุ และเป็นความผิดที่มหาวิทยาลัยห้ามโดยเด็ดขาดมีโทษทางวินัยนักศึกษา" มหาวิทยาลัยดังกล่าว ระบุ
หวังไม่มีใครต้องเจอเรื่องแบบนี้อีก
แม่ของนักศึกษารายนี้ บอกอีกว่า หลังจากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ก็รู้ข่าวว่า มีเหยื่ออีกหลายราย ตนอยากนำประสบการณ์เลวร้ายที่ลูกชายพบเจอมาเป็นกรณีตัวอย่างและกระบอกเสียงให้กับเหยื่อรายอื่นๆ ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย และการรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยควรจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ไร้ความรุนแรงได้แล้ว
ตัวเองในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่ลูกชายต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะลูกชายมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเข้าเรียนที่สาขาประมงของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ได้และสอบติดโควตา แต่สุดท้ายกลับต้องไม่สามารถเรียนต่อได้และต้องยอมลาออก โดยสาเหตุที่ไม่ใช่ปัญหาจากการเรียน แต่เป็นเพราะการใช้ความรุนแรงในการรับน้อง ซึ่งหวังว่าทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการรับน้องและมาตรการป้องกันไม่ให้มีการใช้ความรุนแรง รวมทั้งหวังว่าจะไม่มีใครที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นเดียวกับลูกชายตัวเองอีก