เด็กชาย 1 ขวบ ติดเชื้อในลำไส้เสียชีวิต ครอบครัวคาใจหมอบอก "ไม่เป็นอะไรมาก"

เด็กชาย 1 ขวบ ติดเชื้อในลำไส้เสียชีวิต ครอบครัวคาใจหมอบอก "ไม่เป็นอะไรมาก"

เด็กชาย 1 ขวบ ติดเชื้อในลำไส้เสียชีวิต ครอบครัวคาใจหมอบอก "ไม่เป็นอะไรมาก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(3 พ.ย. 62) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ F'Fa Supaporn โพสต์ภาพและเรื่องราวสุดเศร้าของ เด็กชายอายุ 1 ขวบ 1 เดือน 22 วัน ที่เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้พาน้องเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่หมอบอกว่าน้องไม่ได้เป็นอะไร และไม่อนุญาตส่งตัวไปรักษาต่อ สุดท้ายกว่าจะได้ส่งตัวน้องก็สายไปแล้ว

อีจัน ได้ติดต่อไปยังคุณวรรณิสา ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของน้องปุณยกันต์ (ผู้เสียชีวิต) คุณวรรณิสาเล่าว่า น้องเกิดมาไม่ค่อยสมบูรณ์เพราะมีอาการดาวน์ซินโดรม แต่น้องเป็นเด็กที่ร่าเริง สดใส เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2562 น้องอาการนอนหายใจติดขัด เหมือนเป็นหวัด บวกกับน้องมีอาการหลอดลมน้องตีบ ตั้งแต่เกิดแล้ว

เช้าวันที่ 27 ต.ค. 2562 ทางครอบครัวพาน้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอ โดยหมอที่รักษาน้องสั่งให้น้องแอดมิดเพราะน้องมีอาการหลอดลมตีบ ต้องพ่นยาเป็นเวลา 2 วัน

หลังจากที่น้องได้รับการรักษาปกติ จู่ๆ วันที่ 28 ต.ค. 2562 น้องมีไข้สูงถึง 38.2 หมอจึงให้น้องนอนดูอาการต่อ จนมาถึงวันที่ 29 ต.ค. 2562 หมอบอกน้องยังมีเสลด จึงสั่งนอนรอดูอาการอีก 1 วัน

30 ต.ค. 2562 น้องอาการถ่ายหนักหลายครั้ง ทางครอบครัวเห็นว่าน้องอาการไม่ค่อยดี จึงขอส่งตัวน้องไปที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด แต่พยาบาลตอบกลับว่า “หนักกว่านี้ยังไม่ขอส่งตัวเลย” จึงรักษาน้องตามอาการ

31 ต.ค. 2562 น้องมีถ่ายหนักและไข้สูง 40 องศาเซลเซียส น้องตัวร้อนกว่าเดิม และไม่มีท่าทีว่าอาการน้องจะดีขึ้น พยาบาลจึงมาตรวจน้องและนำยามาฉีดให้น้อง

คุณวรรณิสาบอกอีกว่า ก่อนที่พยาบาลฉีดยา 2 เข็ม น้องเล่น น้องร่าเริง แต่หลังจากฉีดยาไปน้องมีอาการตาเหลือกตาค้างเกร็ง พยาบาลจึงนำมาพ่นยาให้ แต่น้องก็ยังหอบและช็อกตาเหลือกนิ่งไปพักหนึ่ง

จังหวะนั้นแม่เริ่มรู้สึกว่าอาการน้องหนักขึ้น จึงขอหมอส่งตัวน้องอีกครั้ง แต่หมอตอบกลับมาว่า น้องมีไข้ให้พาไปอาบน้ำแล้วมาทานยา แล้วน้องอาการเบาลงมาได้ 10 นาที น้องก็มีอาการชักเกร็งเหมือนเดิม แม่ขอร้องอ้อนวอนให้หมอส่งตัว พอพยาบาลเห็นน้องอาการไม่ดีจึงรีบสั่งรีเฟอร์ไปโรงพยาบาลในตัวจังหวัด

พอมาถึงโรงพยาบาลในจังหวัด หมอบอกว่า ทำไมถ้ามาช้ากว่านี้อาจจะไม่รอด และที่น่าตกใจไปกว่านี้คือ หมอที่โรงพยาบาลตัวอำเภอ ได้ฉีดยาที่มีกลุ่มยาที่น้องแพ้เข้าไป เลยทำให้น้องมีอาการตาค้างชักเกร็ง หมอได้เก็บอุจจาระกับเลือดน้องไปตรวจ หลังจากนั้นน้องมีอาการตาเหลือกนิ่งไม่รู้ตัว พยาบาลมาเรียกมาตีให้น้องรู้สึกตัว

1 พ.ย. 2562 น้องมีอาการชักเกร็งหายใจเองไม่ได้ แม่ตามพยาบาลมาดูหมอได้สั่งให้ดูดเสลดและใส่ท่อช่วยหายใจ ชั่วขณะใส่ท่อน้องได้มีการหยุดหายใจ หมอพยายามช่วยจนน้องกลับมา และย้ายขึ้นห้อง จนหมอช่วยกันอย่างสุดความสามารถแต่ไม่สามารถยื้อน้องได้ หมอได้แจ้งว่าน้องหยุดหายใจ

หมอบอกน้องติดเชื้อที่ลำไส้ ปอดติดเชื้อ เลือดเป็นกรดติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง เชื้อได้กระจายไปทั่วร่างกายน้องแล้ว

ทั้งนี้การออกมาโพสต์ครั้งนี้ทางครอบครัวไม่ได้ต้องการโจมตีการทำงานของโรงพยาบาล แต่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ขอให้น้องเป็นเคสสุดท้าย และอยากวอนคนที่เข้ามาโจมตีครอบครัวว่าทำให้ชื่อเสียงโรงพยาบาลเสียหาย หากเรื่องนี้ ไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวใคร คงไม่มีวันเข้าใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook