แม่ป่วยทางจิตใช้สากตีหน้าลูก 6 ขวบจนตาย ยังห่มผ้ากอดศพแนบอก

แม่ป่วยทางจิตใช้สากตีหน้าลูก 6 ขวบจนตาย ยังห่มผ้ากอดศพแนบอก

แม่ป่วยทางจิตใช้สากตีหน้าลูก 6 ขวบจนตาย ยังห่มผ้ากอดศพแนบอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สลด แม่ป่วยทางจิตใช้สากตีหน้าลูกสาว วัย 6 ขวบ จนตายคามือ และยังห่มผ้าให้ลูกนอนกอดศพแนบอก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นเมื่อแม่สติไม่ดีได้ใช้สากฆ่าลูกแท้ๆ ของตัวเองคาห้องนอนและยังห่มผ้าให้ลูกและนอนกอดศพเหมือนกับยังมีชีวิตอยู่ โดย พ.ต.ท.วัชริน ตันเจริญรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภสะเดา จ.สงขลา ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิตภายในห้องเช่า ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสะเดา

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านห้องแถวชั้นเดียว ภายในห้องพบร่าง ด.ญ.ปิยะฉัตร หรือ น้องเปีย อายุ 6 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน ในสภาพที่ใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนช้ำทั้งหน้าเลือดออกทางจมูกเปื้อนที่นอนและสภาพศพเพิ่งถูกทำร้าย และที่บริเวณหน้าห้องนอนพบสากกะเบือเปื้อนเลือดตกอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายน้องเปีย

และจากการสอบสวนทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายน้องเปียจนตายคือ นางสาวพรรณภา อายุ 24 ปี ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต และขณะเกิดเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังอยู่ภายในห้องนอน แต่จากการสอบถามไม่ยอมพูดคุยหรือให้การใดๆ นิ่งเฉยตลอด ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.สะเดา

หลังเกิดเหตุตำรวจได้สอบถาม นางสมัย อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นยายของน้องเปีย และเป็นแม่ของนางสาวพรรณภา เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มเมื่อคืนนี้ ตนได้กลับจากทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.สะเดา เมื่อกลับมาถึงบ้านได้เคาะประตูเรียก น.ส.พรรณภา ซึ่งเป็นลูกสาว และได้เดินออกมาปิดประตูให้ จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปนอนภายในห้องนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่รู้สึกผิดสังเกตเนื่องจากไม่ได้ยินเสียงหลานสาวเลย จึงเดินเข้าไปดูภายในห้องนอนทีแรกก็เห็นหลานสาวนอนห่มผ้าคลุมหัวอยู่โดยมีแม่นอนกอดลูกแนบอก ตนจึงได้เรียกหลานเพื่อให้ลุกขึ้นไปฉี่เหมือนทุกคืน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ

โดยเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ตื่น จึงได้ไปดึงผ้าห่มออกจากตัวก็แทบช็อก เพราะที่ใบหน้าหลานถูกตีจนเละเลือดอาบ เมื่อถามลูกสาวก็ไม่ยอมพูดอะไรได้นั่งนิ่งอย่างเดียว จึงได้ออกไปเรียกเพื่อนบ้านให้มาดูและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

สำหรับศพของ น้องเปีย ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดหัวถนน ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับบ้านเกิดเหตุ และจะทำพิธีสวดอภิธรรมศพแค่คืนเดียวและในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) จะทำพิธีฌาปนกิจศพทันที เนื่องจากครอบครัวลำบากและไม่มีญาติพี่น้องมีเพียงเพื่อนบ้านและเพื่อนคนงานที่ร่วมกันเรี่ยไรเงินมาช่วยงานศพ

ส่วนญาติพี่น้องที่ จ.นครพนม ก็ไม่มีใครเดินทางมาเนื่องจากมีอุปสรรคเรื่องการเดินทางและส่วนใหญ่ลำบาก โดยบรรยากาศในงานศพเป็นไปอย่างเรียบง่ายมีเพียง นางสมัย ซึ่งเป็นยายและเพื่อนคนงานเพียงไม่มีคนที่มาช่วยกันดูแลงานศพ

ส่วนนางพรรณภา ซึ่งเป็นแม่ของน้องเปีย ทางพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ยังไม่แจ้งข้อหาใดๆ โดยได้ส่งตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ตรวจอาการอย่างละเอียดและทำการรักษา และรอการยืนยันจากแพทย์ว่าป่วยทางจิตหรือไม่ หากป่วยจริงก็ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาให้หายก่อน จากนั้นจึงค่อยมาว่ากันทางคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook