แข็งมาแข็งกลับ! เด็กหญิงยัน ไม่รับค่าปรับลิขสิทธิ์คืน เตรียมรวมผู้เสียหายฟ้องกรรโชกทรัพย์

แข็งมาแข็งกลับ! เด็กหญิงยัน ไม่รับค่าปรับลิขสิทธิ์คืน เตรียมรวมผู้เสียหายฟ้องกรรโชกทรัพย์

แข็งมาแข็งกลับ! เด็กหญิงยัน ไม่รับค่าปรับลิขสิทธิ์คืน เตรียมรวมผู้เสียหายฟ้องกรรโชกทรัพย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีเด็กหญิงวัย 15 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ดำเนินการล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากเด็กหญิงคนดังกล่าวได้ประดิษฐ์กระทงขายติดรูปตัวการ์ตูนดัง ก่อนที่จะมีการล่อซื้อให้เด็กหญิงนำกระทงดังกล่าวมาส่งที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ลานย่าโม) ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และจับตัวเด็กหญิงไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมเรียกเงินค่าปรับจำนวน 50,000 บาท เพื่อเป็นการไกล่เกลี่ย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเจรจาให้จนกระทั่งตกลงจ่ายค่าปรับไปที่ 5,000 บาทนั้น

>> บริษัทตัวแทนลิขสิทธิ์ ออกโรงโต้ ไม่เคยสั่งจับลิขสิทธิ์ผิดกฎหมาย

>> ทนายดังซัดล่อซื้อเด็กหญิงวัย 15 ปี จับทำ "กระทงลิขสิทธิ์" เป็นวิธีการที่สกปรกที่สุด

>> เด็กหญิงวัย 15 ทำกระทงลายการ์ตูนขาย ถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์ เรียกค่าปรับ 5 หมื่น

ล่าสุด บ่ายวันนี้ (5 พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนของเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนดังกล่าว ได้ติดต่อไปที่ทนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพื่อขอนำเงิน 5,000 บาท ที่ปรับน้องอายุ 15 ปี มาคืนให้ โดยจะคืนให้ผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา แต่ล่าสุดทราบว่าทางผู้ปกครองของเด็ก พร้อมทั้งครอบครัวจะไม่ยอมรับเงินใดๆ เนื่องจากลักษณะพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าว คล้ายกับขบวนการมิจฉาชีพ ซึ่งในวันเดียวกันนั้นมีผู้ที่ถูกกลุ่มคนดังกล่าวล่อซื้อและจับมาเรียกเงินปรับค่าลิขสิทธิ์อยู่ 5-6 ราย โดยบางรายถึงกับยินยอมจ่ายเงินให้กับกลุ่มคนดังกล่าวไปถึง 20,000 บาท เพื่อไม่ต้องการให้มีการฟ้องคดีละเมิดลิขสิทธิ์ เหมือนเป็นการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ประสานผู้เสียหายทั้งหมด มารวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการจับเรียกเงินค่าปรับครั้งนี้ต่อไป

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ตนเองตนเองก็รู้สึกเห็นใจน้องวัย 15 ปี เพราะมีความตั้งใจที่จะหาเงินรายได้เสริมช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง และไม่ได้มีการทำเป็นธุรกิจใหญ่โตอะไร ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้ประสานไปที่ผู้ปกครองเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาตามความเหมาะสม ส่วนหากตัวแทนลิขสิทธิ์ จะติดต่อขอนำเงินค่าปรับ มามอบให้กับครอบครัวของน้องวัย 15 ปี ตนเองก็พร้อมที่จะเป็นตัวกลางให้ ขณะเดียวกันถ้าหากผู้ที่ถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมีอยู่หลายราย หากจะมีการรวมตัวกันมาแจ้งความถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวกรรโชกทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมที่จะรับแจ้งความไว้ดำเนินคดีเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook