ดราม่าจบแล้ว รุ่นพี่แม่โจ้สารภาพผิดปมรับน้อง โดนแจ้งข้อหา-สั่งโทษปรับ

ดราม่าจบแล้ว รุ่นพี่แม่โจ้สารภาพผิดปมรับน้อง โดนแจ้งข้อหา-สั่งโทษปรับ

ดราม่าจบแล้ว รุ่นพี่แม่โจ้สารภาพผิดปมรับน้อง โดนแจ้งข้อหา-สั่งโทษปรับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดราม่าจบลงแล้ว รุ่นพี่แม่โจ้ยอมรับสารภาพทุกอย่าง รับน้องทำร้ายรุ่นน้องอ่วม โดยแจ้งข้อหา-สั่งทันที แม่ไม่ติดใจเอาความอะไรแล้ว ยินดีทางมหาวิทยาลัยคืนค่าเทอม แค่คงไม่ให้กลับไปเรียนแล้ว

จากกรณีที่อดีตนักศึกษารุ่นน้อง ปี 1 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ พร้อมกับผู้ปกครองเข้าแจ้งความที่ สภ.แม่โจ้ เอาผิดกับรุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกาย ระหว่างร่วมกิจกรรมรับน้อง ล่าสุดในวันนี้ (6 พ.ย.) ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พากลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ 6 คน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยตำรวจใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง

ก่อนที่ พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่โจ้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังสอบปากคำรุ่นพี่แล้วทั้งหมดประมาณ 10 คน ในที่สุดรุ่นพี่พี่คนหนึ่ง ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าลงมือทำร้ายรุ่นน้อง แต่ที่ผ่านมายังไม่ยอมรับเพราะกลัวส่งผลกระทบกับการเรียนและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย

โดยหลังจากให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ พร้อมสั่งปรับที่โรงพัก แต่ตำรวจยังไม่เปิดเผยอัตราเปรียบเทียบปรับตามขั้นตอน

พ.ต.อ.ณฐภณ กล่าวว่า หลังจากผู้กระทำยอมรับผิดและมีการเปรียบเทียบปรบ ถือว่าเรื่องนี้จบลงด้วยดี ซึ่งทางผู้ปกครองก็พอใจ ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ขอโทษครอบครัวของน้องโฟล์ค รับปากว่าจะควบคุมการรับน้องให้ดีกว่านี้

ขณะที่ ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีฯ ระบุว่า การรับน้องสืบทอดมานานกว่า 85 ปี เพื่อเสริมสร้างความรักและความสามัคคีระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และยอมรับว่ารุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมก็ยังเป็นวัยรุ่น อาจมีความพลั้งพลาดไปบ้างและทางมหาวิทยาลัยก็ต้องขอโทษกับความพลั้งพลาดที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยขอน้อมรับและจะนำไปเป็นบทเรียนในการปรับระบบการบริหารจัดการให้รัดกุมมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เยียวยาด้วยการชดเชยเงินค่าเทอมให้กับผู็เสียหาย ที่ได้จ่ายมาแล้วประมาณ 30,000 บาท รวมทั้งเสนอทุนเรียนฟรี 4 ปี ในคณะเดิม ส่วนน้องจะเรียนต่อคณะเดิมหรือต้องการเปลี่ยนคณะก็อยู่ที่การตัดสินใจของน้อง

นางลลิตภัทร อายุ 43 ปี แม่ของเหยื่อผู้เสียหาย ระบุว่า รู้สึกพอใจที่มีคนออกมาแสดงความรับผิดชอบยอมรับผิด และทางครอบครัวก็ไม่ติดใจอะไร แต่ขอให้ทางมหาวิทยาลัยเพิ่มมาตรการในการรับน้องให้อยู่ในกฏระเบียบมากขึ้นสำหรับนักศึกษาใหม่รุ่นต่อไป ในส่วนข้อเสนอของทางมหาวิทยาลัยนั้น คงไม่ให้น้องกลับไปเรียนที่เดิมอีกแล้ว และอาจจะให้สอบเข้าโรงเรียนตำรวจแทน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook