ตามหาลูกสาวหายไป 6 ปี พ่อยังไม่หมดหวัง เจอเบาะแสรถปิกอัพปริศนา

ตามหาลูกสาวหายไป 6 ปี พ่อยังไม่หมดหวัง เจอเบาะแสรถปิกอัพปริศนา

ตามหาลูกสาวหายไป 6 ปี พ่อยังไม่หมดหวัง เจอเบาะแสรถปิกอัพปริศนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อยังไม่หมดหวังร้องศูนย์คนหายตำรวจ หลังออกตามหาลูกสาวหายไปกว่า 6 ปี คาดรถปิกอัพปาเจโร่ลึกลับอาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปปริศนาครั้งนี้

นายวิโรจน์ อายุ 56 ปี พร้อมญาติพี่น้องจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมายัง สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิกระจกเงา แจ้งว่าลูกสาวของตน คือ นางสาวภาวิณี กอไธสง หรือ เก๋ อายุ 23 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2556 หลังจากเรียนจบรับปริญญาแล้ว ได้ไปเช่าห้องพักหางานทำที่ อ.แหลมฉบัง จากนั้นก็ได้ขาดการติดต่อกับครอบครัวไป

ต่อมา นายวิโรจน์ ได้เดินทางจากบ้านจาก จ.บุรีรัมย์ ลงไปตามหาที่ห้องเช่า ก็มาทราบว่าลูกสาวไม่ได้อยู่ห้องนานนับเดือนแล้ว สภาพภายในห้องพักยังมีข้าวของและเอกสารสำคัญที่เตรียมเอาไว้ไปสมัครงานอยู่ครบถ้วน โดยปกติลูกสาวจะโทรมาหาสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2556 ตนไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้เลย

เมื่อลงไปตามหาก็พบว่าลูกสาวหายตัวไปจากห้องเช่า ก็พบว่าข้าวของต่างๆ ก็ยังอยู่ครบ ขณะที่เพื่อนและคนรู้จักก็ไม่มีใครทราบว่าไปไหน เกรงว่าลูกรสาวจะถูกหลอกไปทำงานหรือตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ เพราะตอนนั้นลูกสาวเคยโพสต์ข้อมูลหางานทำในอินเตอร์เน็ตเอาไว้ด้วย

พร้อมกันนี้ นายวิโจน์ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (คบคน.ตร.) ซึ่งในวันนี้ได้ลงพื้นที่เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการหายตัวไปของนางสาวภาวิณี

โดยลำดับเหตุการณ์ก่อนนางสาวภาวิณีหายตัวไป จากเพื่อนสนิทที่เรียนชั้นมัธยมมาด้วยกันที่ จ.บุรีรัมย์ และทำงานอยู่ในแหลมฉบัง โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ประมาณต้นเดือนมิถุนายน 2556 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม น้องเก๋ได้โทรมาขอให้ช่วยขี่รถพาไปส่งขึ้นรถ เพราะจะเข้ากรุงเทพฯ โดยบอกว่ามีธุระ จะขอติดรถพี่ที่เคยทำงานโรงงานเดียวกันไป

เพื่อนคนดังกล่าวจึงได้มารับน้องเก๋จากหอพัก และพาไปส่งริมถนนปากทางถนนพระพรหม ออกสู่ถนนทางหลวงหมายเลข 7 ระยะทางจากหอพักมาจุดดังกล่าว ประมาณ 10 กิโลเมตร เมื่อมาถึงก็พบรถปิกอัพมิตซูบิชิ ปาเจโร่ มาจอดรอรับอยู่ก่อนแล้ว โดยเพื่อนไม่เห็นว่าใครเป็นคนขับ เห็นแค่น้องเก๋ขึ้นรถและรถก็ขับออกไป คาดว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นเหตุการณ์สุดท้ายก่อนน้องเก๋หายตัวไป

ทางด้าน มูลนิธิกระจกเงา หลังรับแจ้งเรื่องได้ประสานงานไปยัง คณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ประสานงาน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจเก็บสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ ของบิดาคนหายเพื่อตรวจเปรียบเทียบกับศพนิรนามทั่วประเทศ ซึ่งปกติในพื้นที่ต่างๆ มีการพบศพหรือโครงกระดูกนิรนาม ไม่ทราบชื่ออยู่เสมอ การตรวจเปรียบเทียบข้อมูลคนหายกับศพนิรนาม อาจพบข้อมูลที่สัมพันธ์กันก็ได้

มูลนิธิกระจกเงา ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเก็บข้อมูลศพนิรนามในประเทศไทย ยังไม่เป็นระบบเดียวกัน มีหลายหน่วยงานและไม่เป็นเอกภาพ ควรมีการเก็บดีเอ็นเอศพนิรนามไว้ทุกรายและรวมเป็นฐานข้อมูลเดียวกัน ตลอดจนข้อมูลคนหายที่ตำรวจรับแจ้งเหตุ

ทั้งนี้ หากมีลักษณะผิดปกติ หายไปในเชิงอาชญากรรม ควรมีการเก็บดีเอ็นเอของญาติคนหายไว้เพื่อเปรียบเทียบด้วย โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีศพหญิงนิรนาม ตลอดจนโครงกระดูก ตั้งแต่ปี 2556 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีหลายราย ที่ควรนำมาตรวจสอบเทียบกับน้องเก๋ ซึ่งแม้ไม่ใช่ น้องเก๋ ก็ติดตามหาญาติว่าศพนิรนามเหล่านั้นเป็นใคร

สำหรับผู้ที่ทราบเบาะแสการหายตัวไปของนางสาวภาวิณี กอไธสง หรือ เก๋ อายุ 23 ปี หายตัวไปจากแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2556 เป็นผู้หญิง ส่วนสูงประมาณ 163 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 55 กิโลกรัม เป็นคนมีไฝที่จมูก และมีแผลเป็นอยู่ที่แขนขวา หากพบเจอสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา หมายเลขโทรศัพท์ 0807752673

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook