โศกนาฏกรรม 3 ศพ หนุ่มจ่อยิงอดีตเมีย-แม่ยายกลางตลาด หนีไปฆ่าตัวตายหน้าอัฐิพ่อแม่
ลูกเขยจ่อยิงอดีตเมียและแม่ยายดับคาร้านข้าวสารในตลาดนัดที่ปราณบุรี จากนั้นหลบหนีแล้วโทรศัพท์ไปลาพี่สาว แล้วจ่อยิงตัวเองดับหน้าเจดีย์เก็บอัฐิพ่อแม่ในวัดเขาเต่า ดับสลดรวม 3 ศพ
(8 พ.ย.62) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ร.ต.ท.เอกพจน์ ทิมทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปราณบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในตลาดนัดหมู่บ้านหนองหอย ตรงข้ามโรงเรียนบ้านหนองหอย ม.4 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อิทฺธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สภ.ปราณบุรี ทราบ แล้วรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี
โดยที่เกิดเหตุพบเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่มีชาวบ้านกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณข้างรถบรรทุก6ล้อเล็ก ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บพ6754 ประจวบคีรีขันธ์ บรรทุกข้าวสาร พบศพนางสาวพรทิพย์ อายุ 36 ปี ถูกยิงที่ท้ายทอย 1 นัด และนางชลอ อายุ 61 ปี ถูกยิงที่ใต้ราวนมซ้าย 1 นัด เสียชีวิตข้างรถบรรทุกข้าวสาร รวม 2 ศพ เมื่อตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 มีเทปผ้าสีแดงพันรอบปลอกกระสุน ตกอยู่ปลายเท้านางสาวพรทิพย์ จำนวน 1 ปลอก ห่างไปประมาณ 15 เมตร บริเวณที่จอดรถ พบปลอกที่ 2 และอีกประมาณ 5 เมตร พบปลอกที่ 3 เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายสมใจ อายุ 63 ปี เปิดเผยว่า ผู้ตายคือภรรยาและลูกสาว ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นอดีตลูกเขย ซึ่งเลิกรากับนางสาวพรทิพย์ไปนานกว่า 1 ปีแล้ว ชื่อนายมนัส ชาวบ้านเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยก่อนเหตุ ตนและครอบครัวได้นำข้าวสารมาขายที่ตลาดนัดตามปกติ ซึ่งลูกสาวบอกตนและแม่ว่า นายมนัสได้โทรศัพท์มาหาหลายครั้งแล้วแต่ไม่รับ จากนั้นขณะที่ตนและภรรยากำลังขายข้าวสารอยู่ ส่วนลูกสาวเข้าไปนั่งในรถ ปรากฎว่านายมนัส ซึ่งสวมเสื้อโปโลสีขาว สวมปลอกแขนสีดำ ใส่กางยีนส์ขาสั้น ได้เดินมาที่ข้างรถ แล้วเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารออกมา แล้วล็อกคอลูกสาวก่อนชักอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ออกจากเอวมาเหนี่ยวไกยิงที่ท้ายทอยลูกสาวไป 1 นัด
จากนั้นนายมนัส ได้สลัดปลอกกระสุนปืนออกตกอยู่ที่หน้ารถข้าวสาร ใส่กระสุนปืนเข้าไปใหม่ เมื่อตนหันมาเห็นเข้าจึงวิ่งอ้อมรถเข้ามาจะช่วยลูก นายมนัสได้ยิงใส่ตน 1 นัด แต่เป็นจังหวะที่ตนก้มลงพื้นจะหยิบรองเท้ามาปาใส่ด้วยความโมโหเพราะตอนนั้นหาอะไรไม่ทัน ทำให้กระสุนพลาดไป ตนไม่โดนยิง
เมื่อนายมนัสยิงนัดที่ 2 แล้ว ได้วิ่งหนีไปทางลานจอดรถสลัดปลอกกระสุนออกกระสุนตกลงอยู่ที่ลานจอดรถแล้วใส่ใหม่ ไม่ถึง 1 นาที วิ่งย้อนกลับมา เป็นตอนที่นางชลอ แม่ยาย ได้มาดูลูกที่ล้มลงไปนอนกับพื้นเสียชีวิตจมกองเลือดแล้ว นายมนัสได้จ่อยิงอดีตแม่ยายเข้าใต้ราวนมซ้ายไปอีก 1 นัดจนล้มลงกับพื้น ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไปเป็นรอบที่สองแล้วสลัดปลอกกระสุนปลอกที่ 3 ตกอยู่ที่ลานจอดรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะมีชาวบ้านเห็นว่าขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปทางถนนเพชรเกษม
ส่วนสาเหตที่นายมนัสก่อเหตุยิงอดีตภรรยาและแม่ยาย นั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะความโกรธแค้นที่พยายามขอคืนดีมานานนับปีแต่ยังไม่เป็นผล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้ครึ่งชั่วโมง ได้รับแจ้งว่า นายมนัสได้จ่อยิงตัวเองเสียชีวิตหน้าหน้าเจดีย์เก็บอัฐิพ่อแม่ ภายในวัดเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไปตรวจสอบ พบศพนายมนัส เอื่อมสำอางค์ นอนหงายหน้าเสียชีวิตอยู่หน้าเจดีย์ พบอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอกตกอยู่บนพื้นปลายเท้าผู้ตาย ที่ขมับข้างขวามีบาดแผลถูกกระสุนปืนเจาะฝังใน โดยมีญาติๆและลูกสาว ยื่นดูด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ
นายชยพล เล่าว่า นายมนัสผู้ตายเป็นน้องชายของภรรยาตน ก่อนเกิดเหตุนายมนัสได้โทรศัพท์ไปล่ำลาพี่สาวคนโต บอกว่าจะฆ่าตัวตาย โดยอยู่ที่เจดีย์เก็บอัฐิพ่อแม่ที่วัดเขาเต่า พี่สาวได้โทรศัพท์บอกตนและญาติๆให้ช่วยกันตามหานายมนัส เมื่อมาถึงเห็นนายมนัสนั่งหน้าเครียดอยู่ที่พื้นปูน ตนและญาติๆ พยายามพูดเกลี้ยกล่อม หว่านล้อมไม่ให้คิดสั้น แต่นายมนัสกลับใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะตัวเองตลอดเวลาไม่มีจังหวะจะแย่งปืนได้เลย แม้แต่ลูกสาวของนายมนัสที่ติดตามมาขอร้องพ่อไม่ให้คิดสั้นก็ไม่เป็นผล กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณเกือบ 20 นาที เมื่อนายมนัสเห็นว่ามีรถยนต์กระบะวิ่งเข้ามาในวัดจึงเกิดความเครียดจัด ก่อนลั่นไกฆ่าตัวตายทันที
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายมนัส ผู้ก่อเหตุ เคยอยู่กินกับนางสาวพรทิพย์ มานานหลายปี กระทั่งมีปัญหาในครอบครัว จนกระทั่งทั้งคู่ต้องเลิกราแยกกันอยู่ มาได้นานกว่า 1 ปีแล้ว แต่นายมนัส ยังตามง้อขอคืนดีมาตลอดแต่อดีตภรรยาไม่ใจอ่อน โดยวันนี้นายมนัสได้มานั่งคอยอยู่ที่ร้านค้าภายในตลาดนัดอยู่ก่อน ซึ่งมองเห็นอดีตภรรยาและครอบครัวกำลังตั้งร้านขายข้าวสารตลอดเวลา คาดว่านายมนัสน่าจะเกิดอาการเครียดที่โทรศัพท์หาแต่ไม่ยอมรับสายสักครั้ง จึงเกิดความโมโห เดินเข้าไปใช้ปืนจ่อยิง อดีตภรรยาและแม่ยาย เสียชีวิตดังกล่าว ภายหลังก่อเหตุมีความเครียดและกลัวความผิดจึงตัดสินใจยิงตัวตายตาม