เปิดจดหมายน้อย เด็กหญิง ป.6 พ่อแม่ขายให้แต่งงานกับชายอายุ 50 แต่หนูอยากเรียนต่อ

เปิดจดหมายน้อย เด็กหญิง ป.6 พ่อแม่ขายให้แต่งงานกับชายอายุ 50 แต่หนูอยากเรียนต่อ

เปิดจดหมายน้อย เด็กหญิง ป.6 พ่อแม่ขายให้แต่งงานกับชายอายุ 50 แต่หนูอยากเรียนต่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chitrapon Vanaspong ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรศูนย์เพื่อน้องหญิง โพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์ช่วยเหลือเด็กหญิง ที่กำลังจะถูกครอบครัวขายให้ไปแต่งงานกับชายอายุ 50 ปี 

โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ศูนย์เพื่อน้องหญิงได้รับจดหมายน้อยจากเด็กหญิงคนหนึ่งที่ขอความช่วยเหลือ เพราะแม่จะบังคับให้ไปแต่งงานกับผู้ชายอายุ 50 ทีมงานพยายามจะช่วยให้เค้าไม่ต้องแต่งงานไปจนได้ แต่กว่าจะช่วยได้ก็ใช้เวลานานเป็นปี

โดยการช่วยเหลือดังกล่าวสืบเนื่องจาก คณะทำงานได้เข้าไปอบรมเรื่องสิทธิเด็กและการคุ้มครองเด็กให้เด็กๆ ป. 6 ในหมู่บ้าน เด็กหญิงจึงส่งจดหมายขอความช่วยเหลือผ่านเพื่อนสนิท ให้พาตัวเธอออกไปจากบ้าน เนื่องจากพ่อแม่ จะบังคับให้เด็กแต่งงานกับคนอายุ 50 ปี หลังเรียนจบ ป.6 แต่เธอไม่อยากแต่งงาน และอยากที่จะเรียนต่อ

ทีมงานจึงลงพื้นที่ช่วยเหลือและพบว่า นอกจากเด็กคนนี้จะถูกพ่อแม่บังคับแต่งงานแล้ว พี่สาวของเด็กก็ถูกบังคับแต่งงานไปแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ทางทีมงานก็ได้ประสานไปที่ชายที่จะแต่งงานกับเด็กด้วย ซึ่งชายคนนั้นยังเทียวไปเทียวมาหาหนูนาที่บ้าน ซื้อมือถือมาให้ และแม่หนูนาส่งเสริมให้เขาพาหนูนาไปเที่ยว แต่ชายคนนั้นอ้างว่าเพียงแค่เอ็นดูเด็กเท่านั้น

สิ่งสำคัญที่ทีมช่วยเหลือตระหนักคือ ต้องช่วยเด็กออกมาจากบ้านได้ "ก่อน" ที่จะถูกล่วงละเมิด ก่อนที่จะถูกส่งไปแต่งงานกับผู้ชายเฒ่า เพราะการช่วยเหลือเด็กที่ถูกล่วงละเมิดไปแล้ว ก็เหมือนกับแก้วที่ร้าว จะซ่อมแซ่มให้กลับมาดีสนิทเหมือนเดิมก็คงยาก ดังนั้นการป้องกันย่อมดีกว่ารักษามากนัก

เมื่อทีมช่วยเหลือทำเรื่องถึงอธิบดีส่วนกลาง เพื่อให้มีการกระตุ้นในส่วนภาคจังหวัด แต่เมื่อส่วนกลางทำหนังสือถึงจังหวัดแล้ว ทางจังหวัดกลับแสดงความไม่พอใจ เนื่องจากทางจังหวัดให้เหตุผลว่าไม่สามารถพาเด็กออกมาจากครอบครัวได้ เพราะเด็กยังไม่ได้ถูกล่วงละเมิดอะไร และเรื่องนี้ควรคุยกันในจังหวัดให้จบก่อน ทีมช่วยเหลือเผยว่า นโยบายและกฎหมายคุ้มครองเด็กประเทศเราดีมาก แต่ในทางปฏิบัติมันยังทำไม่ได้เพราะติดขัดหลายอย่าง เช่น ผู้นำชุมชนเอง มีตำแหน่งเป็นพนักงานคุ้มครองเด็ก แต่ตัวเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับตำแหน่งนี้ ยังอยู่ในกรอบของความคิดเดิมว่า "เราจะไปยุ่งอะไรกับเรื่องของครอบครัวที่พ่อแม่เขาจะทำอะไรกับเด็กก็ได้"

ทางพ่อแม่หนูนาดุมาก ยืนยันว่าลูกของเขา จะทำอะไรก็ได้ ทีมช่วยเหลือยื้อคุยกับพ่อแม่เด็กอยู่หลายเดือน จนกระทั่งวันหนึ่งที่ศูนย์ไปจัดค่ายเด็กในหมู่บ้าน พอจะกลับ หนูนาก็วิ่งออกมาบอกว่า หนูไม่อยู่แล้ว หนูขอไปด้วย ณ จุดนั้นเลยต้องเอาหนูนาออกจากบ้านมาแล้วไปอยู่ที่ศูนย์ ก่อนที่จะดำเนินการส่งต่อไปที่บ้านพักเด็ก อีกด้านหนึ่งก็ต้องไปเจรจากับพ่อแม่เด็กอีก ทีนี้ทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทีมงานไปนั่งเจรจากับพ่อแม่ เพื่อขอให้ลูกไปอยู่ที่อื่นและไปเรียนต่อ แม่หนูนาโกรธมาก เอาไม้กวาดมาปัดหยากไย่ในบ้านหล่นใส่เจ้าหน้าที่ แต่ในที่สุดก็หว่านล้อมให้เค้ายอมให้หนูนาออกมาอยู่ที่อื่นแล้วเรียนต่อได้จนสำเร็จ

เจ้าหน้าที่ส่งต่อหนูนาให้ไปอยู่ศูนย์เอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัด หนูนาพักที่ศูนย์และมีรถรับส่งไปเรียนที่โรงเรียนใกล้ๆ 2 เดือนก่อนเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมหนูนา พบว่าสบายดี บอกว่าไม่คิดถึงบ้าน จะเรียนให้จบม.3 ก่อนจากนั้นค่อยว่ากัน หนูนาเป็นเด็กเรียนเก่งแต่เค้าไม่อยากเรียนสูงๆ อยากรีบจบจะได้หาเงินมาเลี้ยงพ่อแม่

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook