สรุปข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 3-9 พ.ย. 2562
ข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 3-9 พฤศจิกายน 2562 เพราะทุกวันมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้พลาดประเด็นร้อนกับทุกเนื้อหาที่น่าสนใจใน Sanook.com ข่าวเด่นจึงถูกรวบรวมไว้ให้อ่านอีกครั้ง
>>ลูกสาวช็อกตามหาแม่ 2 ปี น้องชายเพิ่งเล่าความจริง เห็นพ่อขุดหลุมฝังแม่หน้าบ้าน
จ่ากข่าวสะเทือนใจของคนในสังคมกรณีลูกสาวตาหาตัวแม่หลังหายไปเกือบสองปี จนน้องชายกลัวความผิดเปิดปากบอกพ่อขุดหลุมฝั่งศพแม่ในสวนหน้าบ้านพัก นางสาวอำพร ลูกสาว ได้เปิดเผยว่า ตนเองและแฟนได้พยายามติดตามหาแม่มาตลอดเกือบ 2 ปีที่แม่หายตัวไป จนในที่สุดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนเองกับแฟน ได้กดดันโดยพยายามใช้กฎหมายพูดข่มขู่น้องชาย จนน้องชายยอมปริปากออกมาว่า แม่ถูกพ่อขุดหลุมบริเวณหน้าบ้านพัก จากนั้น นางสาวอำพร ได้เปิดเผยต่ออีกว่า พ่อได้ยอมรับสารภาพได้ขุดหลุมฝังศพบริเวณที่ก่อสร้างตลาดมรกตจริง และยังบอกอีกว่าน้องชายได้สารภาพว่าเป็นคนช่วยพ่อหามร่างแม่ลงหลุม ยืนยันพ่อไม่ได้ฆ่าแม่เพียงแค่ไม่มีเงินจัดงานศพ
>>ศาลนัดตรวจหลักฐาน "ปุ๊กกี้ ปริศนา" อดีตนักร้องดัง พร้อมสามี คดีค้ายา
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีดำ ย .2036/62 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายหง เจิ้ง อี้ อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน, นายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 50 ปี ชาวกทม. ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของอดีตนักร้องสาวชื่อดัง น.ส.ปริศนา หรือ พริสซิลลา จิวเมลลี่ หรือปุกกี๊ อายุ 40 ปี ชาวกทม. นายกันต์ธร แก้วกระจ่าง อายุ 28 ปี ชาวกทม. และ น.ส.ธาริณี ขาวบัณฑิต อายุ 27 ปี ชาว จ.พังงา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภทที่ 2 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต
>>"ใบปอ รัตติยา" ราชินีรถแห่ เก๋งเสียหลักชนคนตาย พลิกคว่ำตลบตกคูน้ำ
เกิดอุบัติเหตุรถชนคุณลุงเสียชีวิตคาที่ ก่อนพลิกคว่ำตลบร่วงตกลงไปในคูน้ำข้างทาง พบเป็นรถที่มี ใบปอ รัตติยา ราชินีรถแห่ นักร้องสาวดังกำลังเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ต จุดเกิดเหตุบริเวณถนนสายบ้านบ่อ-หนองแปน ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 2 คน และพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายบัวลา อายุ 63 ปี ขณะเดียวกันพบ รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว สภาพตกลงร่องน้ำข้างทาง โดยมี นางสาวศุภมาส เป็นผู้ขับขี่ จากการสอบถามทราบว่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้ขับมาตามเส้นทางหลัก โดยมาด้วยกัน 4 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางแยกหมู่บ้าน นายบัวลา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ได้ขับออกมาจากบ้านดอนยูง เมื่อรถยนต์ที่วิ่งมาทางตรงแต่รถจักรยานยนต์ข้ามทางไปไม่พ้น ทำให้พุ่งชนรถจักรยานยนต์และคนขับไปชนกับเสาหลักข้างทางเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
>>"ไอซ์ อธิชนัน" อัปเดตอาการ รอยช้ำรอบดวงตาเห็นชัด เลือดคั่งยังไม่หาย
ทำเอาแฟนๆ ใจหายใจคว่ำกันยกใหญ่ เมื่อนักแสดงสาว ไอซ์ -อธิชนัน ศรีเสวก ประสบอุบัติเหตุขณะที่ทีมงานกำลังแรปตัวเธอเพื่อเข้าฉากถ่ายทำเดอะซีรีส์ รัก ลวง หลอน ตอน ห้องเฮี้ยน ทางช่อง 8 แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อกระบอกแรปขนาดใหญ่ หล่นกระแทกใส่หน้าจนทำให้ตาปูด ทั้งนี้ ไอซ์ อธิชนัน ได้อัปเดตอาการโดยได้เผยให้เห็นถึงรอยช้ำที่มีวงกว้างและชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งในดวงตายังคงมีเลือดคั่งอยู่เยอะและมีอาการปวด "เกิดจากแรงกระแทกของที่แรปของเป็นม้วนขนาดใหญ่ ขอบของม้วนตกลงมากระแทกที่บริเวณใต้ตาเต็มๆ เลยเป็นอย่างที่เห็นเนี่ยแหละค่ะ"
>>ครอบครัวดีใจ กระทงเด็กหญิง 15 ไม่ผิดลิขสิทธิ์ ยันเอาเรื่อง "ประจักษ์" ถึงที่สุดแน่นอน
จากกรณีเด็กสาววัย 15 ปี โพสต์ขายกระทงอาหารปลาบนเฟซบุ๊ก และมีคนแฝงตัวเข้ามาสั่งออเดอร์โดยย้ำว่า ขอเป็นกระทงแบบที่มีหน้าตัวการ์ตูนเช่น มินเนี่ยน รีลักคุมะ และแมวกาฟิลด์ กว่า 100 ชิ้น แต่ระหว่างที่นำของไปส่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาถูกจับในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์และเรียกปรับเงิน ต่อมา บริษัท ซาน-เอ็กซ์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน ริลัคคุมะ จากประเทศญี่ปุ่น ออกมายืนยันแล้วว่า กระทงดังกล่าวไม่ผิดลิขสิทธิ์แน่นอน เพราะไม่มีความคล้ายตัวการ์ตูนดังกล่าวแต่อย่างใด เป็นเพียงกระทงรูปหมีธรรมดา รวมทั้ง บริษัท เวอริเซ็ค ที่ นายประจักษ์ โพธิผล อ้างว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ตรวจจับลิขสิทธิ์นั้น ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัท ซาน-เอ็กซ์แล้ว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับคุณตาเด็กหญิงวัย 15 ปี โดยเปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกสงสารลูกสาว (แม่เด็ก) และหลานสาวเป็นอย่างมาก เพราะทั้งคู่ไม่มีโอกาสได้โต้ตอบอะไรเลย ได้แต่กอดคอกันร้องไห้สองแม่ลูก เพราะกลัวถูกดำเนินคดีติดคุก และเสียเงินค่าปรับจำนวนเป็นแสนบาท ตอนนี้ทางครอบครัวรู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว ส่วนในเรื่องของคดีความหลังจากนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งตนและครอบครัว ขอยืนยันว่าจะเอาผิดนายประจักษ์และกลุ่มที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด