ตำรวจเหงื่อตก ล้อมจับ "เอก หลักแก้ว" ผู้ต้องหาคดียา เจรจาข้ามวัน 15 ชั่วโมง
ปิดล้อมระทึกข้ามวันข้ามคืน ตำรวจล้อมจับ "เอก หลักฐาน" ผู้ต้องหายาเสพติด ปิดขังตัวเองในห้องโรงแรม เจรจาต่อเนื่องกว่า 15 ชั่วโมง กว่าจะยอมวางปืนลง
(9 พ.ย.) พ.ต.อ.ดิเรก ชาวสวน ผู้กำกับ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีชายต้องสงสัยเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนสายโพธิ์พระยา-อ่างทอง หมู่ 4 ต.วังยาง คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนนำกำลังเข้าตรวจสอบ
ต่อมาจึงได้ทราบว่า ชายคนดังกล่าวพักอยู่ห้องพักเลขที่ 304 กับหญิงสาวอายุประมาณ 20-25 ปี โดยมีรถกระบะอีซูซุ สีเขียว จอดอยู่หน้าห้อง เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคาะประตูห้อง เพื่อขอตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวไม่ยอมเปิดให้ตรวจสอบ พร้อมชักอาวุธปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมสั่งไม่ให้เข้าใกล้และไม่ยอมให้จับกุม โดยบอกว่า "ยอมตายดีกว่าถูกจับ"
เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมกับขอกำลังสนับสนุนจากชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.สุพรรณบุรี ชุดสืบสวน ภาค 7 กว่า 20 นายเข้าปิดล้อมเจรจาให้มอบตัว โดยชายคนดังกล่าวที่ทราบในภายหลังคือ นายธเนศร์ หรือ เอก อายุ 40 ปี ก็ยังไม่ยินยอมออกมาง่ายๆ
ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานให้แม่และน้องชายของนายธเนศร์ เพื่อให้มาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม แต่เมื่อแม่กับน้องชายเข้าไปในห้อง เหตุการณ์กลับตึงเครียด เมื่อทั้งสองไม่สามารถเกลี้ยกล่อมได้ ต่อมาจึงมีเพื่อนสนิทของนายธเนศร์อาสาเข้าไปช่วยเกลี้ยกล่อมอีกแรง แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นผล นายธเนศร์ได้เปิดประตูห้องพักเอาไว้ แล้วให้หญิงสาวออกมานั่งขวางประตู เพื่อเป็นโล่มนุษย์กันกระสุนให้กับตัวเอง
ทั้งนี้ นายธเนศร์ มีอาการหวาดระแวง พร้อมยอมรับว่าตัวเองเสพยาไอซ์เข้าไป พยายามเรียกร้องให้ตามแฟนเก่ามาหา แต่ปรากฏว่าแฟนเก่าเดินทางมาถึง เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมเข้ามอบตัวหรืออาวุธลง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 8 พฤศจิกายน กระทั่งช่วงกลางดึกต่อเนื่องมายังวันที่ 9 พฤศจิกายน นายธเนศร์ได้เดินออกมาจากห้อง โดยใช้อาวุธปืนจี้ตัวเอง พร้อมขู่ว่าหากเจ้าหน้าที่บุกเข้าชาร์จตัวจะยิงตัวเองทันที
ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านที่ตามมาสมทบพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมต่อไป โดยใช้เวลาไปกว่า 3 ชั่วโมง การเจรจาไม่เป็นผล เนื่องจากคนร้ายไม่ยอมวางอาวุธปืน ทางผู้ใหญ่บ้านได้เสนอตัวเข้าไปหาผู้ก่อเหตุ เพื่อพาเข้ามอบตัว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอม เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย
กระทั่งในที่สุด การเจรจาต้องล้มเหลว ทางผู้ใหญ่บ้านจึงเดินทางกลับ โดย นายธเนศร์ ได้ตะโกนขู่จะยิงตัวเองอยู่ตลอดเวลาสร้างความหวาดกลัวให้กับแม่ของนายธเนศร์ที่ยืนอยู่ด้วยกัน
การเจรจาดำเนินข้ามวันยาวมาถึงช่วงเช้าของวันที่ 9 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังปิดล้อม โดยให้นายธเนศร์ พร้อมแม่และแฟนสาวนั่งอยู่หน้าห้องพัก กระทั่งเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเข้าเจรจาอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวและวางอาวุธ โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ผู้ต้องหาจึงมอบตัว โดยให้กิ๊กสาวเป็นคนนำอาวุธปืนขนาด 9 มม.พร้อมแม็กกาซีน 2 อันกระสุน 28 นัด มาส่งให้ตำรวจ
ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้ เมื่อเข้าตรวจค้นในห้องพักพบยาเสพติดประเภทยาไอซ์จำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์การเสพและที่บริเวณโถส้วม เจ้าหน้าที่พบร่องรอยเหมือนการทำลายของกลาง จากนั้นได้ตรวจค้นในรถกระบะไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายจึงควบคุมไปสอบสวนต่อที่ สภ.ศรีประจันต์ รวมเวลาที่เจราจรในเหตุการณ์ทั้งสิ้นกว่า 15 ชั่วโมง
จากการตรวจสอบประวัติ นายธเนศร์ พบว่าเคยถูกจับคดีจำหน่ายยาเสพติดถูกศาลตัดสินติดคุก 9 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณปีเศษ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 ยาไอซ์ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ ดำเนินคดีต่อไป