"สุดารัตน์" ขอทุกพรรคจริงใจ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้เจตนารมณ์แก้ปัญหาประเทศ

"สุดารัตน์" ขอทุกพรรคจริงใจ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้เจตนารมณ์แก้ปัญหาประเทศ

"สุดารัตน์" ขอทุกพรรคจริงใจ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้เจตนารมณ์แก้ปัญหาประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"คุณหญิงสุดารัตน์" ขอทุกพรรคจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่ประธาน กมธ.ควรให้สัญญากับประชาชน ต้องแก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่มีวาระแอบแฝง

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่สังคมให้ความสนใจในเวลานี้ว่าบุคคลใดจะมาทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สามารถทำได้ ดังนี้ 1. รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สร้างปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ทำโดยวิธีง่ายๆ คือการแก้มาตรา 256 เพียงมาตราเดียว เพื่อปลดล็อกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ 3.ถ้าทุกพรรคการเมืองจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ ก็สามารถใช้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกคน ทุกพรรค ทุกภาคส่วนมาร่วมมือกันหาทางออกจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศ 4.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างความมั่นคงและอนาคตให้คนไทย

สำหรับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทุกคนมีสิทธิ์เสนอตัวมาทำหน้าที่ แต่ผู้เสนอตัวมาทำหน้าที่ประธานควรแสดงวิสัยทัศน์ และให้สัญญากับประชาชนว่าจะมาทำหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง จริงใจ ด้วยวิธีการและขั้นตอนอย่างไรให้ได้มาซึ่งการแก้มาตรา 256 จนถึงการจัดเลือกตั้ง สสร. จากประชาชนได้ การทำหน้าที่ประธานจะต้องไม่มีวาระแอบแฝง ไม่เป็นประธานเพื่อมาป่วนและขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อความก้าวหน้าของประเทศในครั้งนี้

ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมของแต่ละพรรคการเมืองในการตั้งกรรมาธิการนี้ให้ดี เพื่อส่งเสียงเรียกร้องความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ให้สำเร็จ

ทั้งนี้ ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะสื่อสารถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องมีการแก้ไข โดยมีเจตนารมณ์ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของประเทศ คือ ปัญหาความไม่ปรองดอง จากโครงสร้างที่เขียนในรัฐธรรมนูญ และไม่ยึดโยงกับประชาชนแต่ไปยึดโยงกับกลุ่มอำนาจ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นไปเพื่อให้คนกลุ่มเล็กสามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่

ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ของประเทศกลับไม่มีสิทธิ์มีเสียงซึ่งนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเมื่อมีการผูกขาดอำนาจ นโยบายต่างๆ จึงเอื้อแค่กลุ่มทุนใหญ่ สิทธิของประชาชน คนตัวเล็ก ที่จะเกิดโอกาสในการทำมาหากิน จึงถูกปิดกั้น การกระจายอำนาจลดน้อยลง ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจในลักษณะเช่นนี้เป็นเสมือนการรวมศูนย์ทุน จึงทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างที่เห็น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook