รวบแล้ว 3 โจ๋ ยกพวกตะลุมบอนในห้องฉุกเฉิน ด้าน รพ. ออกแถลงการณ์ ดำเนินคดีถึงที่สุด

ความคืบหน้ากรณีคลิปกลุ่มวัยรุ่นรุมกระทืบคู่อริที่มีเรื่องกันในสถานบันเทิง ก่อนยกพวกตามไปตะลุมบอนกันต่อในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอ่างทอง ล่าสุดวันนี้(11 พ.ย.62) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง  ออกหมายจับพร้อมทำการควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหาได้แก่ 1.นายนันทวัช หรือ อาร์ม 2.นายบุญประสิทธิ์  วีระพงศ์ หรือ ต้น และ 3. นายธนาธิป หรือ เอ็ม ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือ จิตใจและร่วมกันบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ  โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน อาจจะมีการออกหมายจับเพิ่ม 

ด้าน นาย ประภาส  ลี้สุทธิพรชัย  ผอ.รพ.อ่างทอง ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลอ่างทองระบุว่า

"โรงพยาบาลอ่างทอง ขอเรียนชี้แจงว่า แนวทางการรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลมีขั้นตอนที่ชัดเจน โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุแล้ว และขอยืนยันว่าโรงพยาบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทุกคน

เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่สมควรเกิดขึ้นในโรงพยาบาล ที่ซึ่งเป็นสถานพยาบาลสำหรับดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งในขณะนั้นมีผู้ป่วยหนักใส่ท่อช่วยหายใจในห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน

ตามนโยบายของท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการว่าให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุความรุนแรงในโรงพยาบาลทุกกรณี ไม่มีการยกเว้น เพื่อให้ผู้รับบริการและบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน มีความปลอดภัย และผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้ลงมาดูแลสั่งการด้วยตนเอง โดยมอบหมายให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง และโรงพยาบาลอ่างทอง  ดำเนินการความเอาผิดกับผู้ก่อเหตุในโรงพยาบาล

ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง และโรงพยาบาลอ่างทองจะดำเนินการโดยเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการและบุคลากร ต่อไป"

>> โผล่อีกคลิป วัยรุ่นนับสิบรุมกระทืบอริหน้าผับ ก่อนตามไปเปิดศึกในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล

>> นาทีเดือด 2 แก๊งคู่อริตีกันหน้าผับ ตามมาซัดกันต่อในห้องฉุกเฉิน ตำรวจเอาไม่อยู่

>> พยาบาลเล่านาทีหนีตาย เผยสภาพห้องฉุกเฉินหลังวัยรุ่นตีกัน เละเหมือนผ่านสงคราม

>> รอง ผบ.ตร. ลั่นแก๊งอ่างทองถล่มห้องฉุกเฉิน เจอข้อหาบุกรุก-ทำร้ายร่างกาย