"นิกกี้ พิ้ม" เผยชีวิตวัยเด็กที่อเมริกา ลั่นไม่ขอเลี้ยงดูพ่อเพราะเขาไม่ได้ดูแลผมมา
รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (12 พ.ย.) พิธีกรสาว ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้เปิดใจสัมภาษณ์ นิกกี้ พิ้ม หรือ สุระ ธีระกล ซึ่งปัจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ลูซิเฟอร์ นิราย พลิ้ม
ทำไมเปลี่ยนชื่อเป็น ลูซิเฟอร์ นิราย พลิ้ม เดี๋ยวคนก็หาว่าบ้า ว่าเพี้ยน?
"เปลี่ยนชื่อมันบ้ายังไง (หัวเราะ) คือจริงๆ แล้วหลายคนบอกว่าตั้งชื่อลูซิเฟอร์แรงเปล่า ผีนะ ปีศาจนะ ผมทำอะไรค่อนข้างศึกษาก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆ ตั้งชื่อเพราะมันเท่ มันเหมาะ สองต้องลิงค์กับชีวิตผม จริงๆ ชื่อไทยผมชื่อสุระ ธีระกล สุระถ้าไปดูในวารสารหรือวิกิพีเดียมันเทพเหมือนอสูรกาย ลูซิเฟอร์ก็เป็นเทพเหมือนกัน คนชอบมองว่าแบด เป็นเทวดาที่ร่างสวยงามแต่ไม่อยู่ในกรอบ ผมดูหลายอย่าง คำนวณวัน นิรายก็คล้ายๆ นารายณ์ นิรายภาษาฮีบรู แปลว่ามือของพระเจ้า"
วันนี้มารู้จักตัวตนคุณหน่อย เกิดที่ไหนและโตที่ไหน?
"ผมเกิดที่เมืองไทย ในตระกูลที่ดี จริงๆ ผมเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย แต่แม่ผมจีนไทย บ้านผม ฝั่งคุณพ่อย้ายมาอยู่ประเทศไทย ปู่ผมเป็นเอ็นจิเนียร์อังกฤษที่สแตนบายอยู่สิงคโปร์ สมัยก่อนเขาไม่มีเครื่องมวนบุหรี่ ตระกูลผมเป็นตระกูลยาสูบ พอปู่ผมมาเมืองไทย ก็เอาเครื่องมาทำยาสูบที่เมืองไทย แล้วเป็นเอ็นจิเนียร์ ยุคนั้นก็ทำผลงานดี ผมไม่แน่ใจว่าเป็นยุคจอมพลป.หรือเปล่า แต่เขาเปลี่ยนนามสกุลให้เป็นธีระกล มีเหรียญช้างเผือกทำความดีความชอบให้กับประเทศ ส่วนคุณแม่ทำธุรกิจค้าขายเพชร จิวเวลรี่ที่โรงแรมชวลิตสมัยก่อน เป็นโรงแรมแอมบาสเดอร์สมัยนี้ แล้วทำพวกไนท์คลับกับพวกทัวร์ตั้งแต่ยุคสมัยก่อน และมีธุรกิจที่พัทยา"
ฐานะพ่อกับแม่ดีมาก?
"ดีมากในยุคนั้น พอดีแม่มีพี่น้องเยอะด้วย รวมคุณแม่ 9 คน เขาก็คงหย่าร้างกัน พ่อก็คงเจ้าชู้ระดับหนึ่ง แม่ก็เลยไปอเมริกา ตั้งแต่ผมอายุ 2 ขวบ ผมก็ไปอยู่โรงเรียนประจำกับพี่ชายตั้งแต่เด็กเลย ผมเลยเดินทางเยอะ ผมไม่ค่อยอยู่ที่เดียว พอ 2 ขวบก็ไปแม่พระฟาติมา ย้ายไปยอแซฟสามพราน แล้วไปอยู่สุโขทัย"
คุณซนเหรอเขาถึงย้ายคุณไปเรื่อยๆ?
"ไม่ใช่ครับ แม่ชีเขาเลี้ยงผมมา ผมโตมากับโบสถ์ เวลาแม่ชีเขามีรอบ ต้องประจำที่นี่ 3 ปี 5 ปี เขาย้ายไปไหนผมก็ต้องไปด้วย แม่ผมฝากไว้กับแม่ชี ตอนนี้แม่ชีอายุ 90 แล้ว พี่ชายก็โตมาด้วยกัน เขาแก่กว่าผมปีนึง ตอนนี้เขาทำธุรกิจอยู่ที่เชียงใหม่"
ไปอยู่อเมริกาได้ยังไง?
"แม่มารับ ตอน 9-10 ขวบ นั่นคือเจอแม่ครั้งแรก ไม่นับตอน 2 ขวบเพราะจำไม่ได้ เขามารับผมไปอเมริกา พอบินไปเสร็จก็เริ่มเรียน อยู่ลอสแอนเจลิส ยุคนั้นป่าเถื่อนมากมีแก๊งสเตอร์บนถนนเยอะ ผมก็ค่อนข้างโตมาแบบเกเร อยู่กับคนจีน เวียดนาม เพราะถิ่นฐานที่ผมอยู่เหมือนในมิวสิกวิดีโอคนดำเลย ผมมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างไม่เหมือนคนอื่นเลย"
แบดบอย?
"อย่าเรียกว่าแบดบอยเลย ผมไม่ใช่แบดบอย มันเป็นวิถีชีวิตของผม ผมต้องดิ้นรน แม่ผมไปอยู่อเมริกา แม่ก็ต้องทำงานเลี้ยงลูก 2 คน ถ้าแม่ไม่อยู่ในสังคมเดินสายดาร์กๆ หน่อย ผมก็ไม่มีข้าวกิน"
ทำมาหากินอะไร?
"ผมขายปืนตั้งแต่อายุ 12 เรื่องพวกนี้ที่อเมริกาเรื่องปกติมาก อยู่ที่นั่นเกือบ 10 ปี ผมกลับเมืองไทยตอนอายุ 16-17 แล้วก็กลับมาเรียนโรงเรียนนานาชาติ"
เหตุผลที่กลับเมืองไทย?
"ผมติดคุกอยู่ที่โน่น 6 เดือน เกี่ยวกับปืนนี่แหละ ผมจะไปยิงคน"
คุกเยาวชนในอเมริกา 6 เดือน?
"ใช่ แต่มาตรฐานก็เหมือนผู้ใหญ่ โดนขังวันละ 20 ชม. ก็ทำให้ผมไม่ยุ่งกับปืนอีกเลย เข็ด ตอนนั้นมันเด็ก เป็นความคึกคะนอง"
ยิงคนจริงมั้ย?
"ไม่พูดได้มั้ย ผมว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว"
คิดว่าตัวเองเดินทางผิดมั้ย?
"มันเป็นวิถีชีวิต ไม่ได้เดินทางผิด ถ้าไปอยู่อเมริกามันต้องเป็นแบบนั้น ตอนผมไปอยู่อเมริกา ไม่ได้อยู่แบบคนร่ำรวยนะ อยู่แบบร้อยเมตรมีคนขายยาหมด นั่นคือยุคนั้น"
กลับมาเมืองไทยได้เจอพ่อมั้ย?
"ยังครับ ประเด็นคือผมมีตั๋ว ศาลเขาบอกว่านิกเดี๋ยวกลับไปต้องติดคุกบ้านนะ ต้องใส่ข้อเท้าปีนึง ห้ามออกนอกบ้านเกิน 100 เมตร หลังศาลตัดสินแล้ว แม่ผมไปร้องห่มร้องไห้กับศาล ผมถือว่าเป็นบุคคลอันตราย โดนคดีมาเหมือนรอพ้นโทษ ถ้ากลับไปเมืองไทยเขาถือว่าไม่มีปัญหา แต่หนึ่งปีต้องกลับมารายงานตัวนะวันที่ศาลปล่อย แม่ก็เลยจัดการเรื่องตั๋วส่งผมมาเมืองไทย ผมก็อยากรู้วาพ่อผมคือใคร สมัยก่อนเป็นวัยรุ่น ยังเป็นเยลโล่เพจเจส เจอพ่อปุ๊บ ก็โทรไปคุย เขาพูดภาษาไทย คุยกันแป๊บนึง ผมก็อยากรู้ทรงเขาว่ารวยเปล่า เผื่อหารายได้หน่อย (หัวเราะ) ผมก็โทรไปแต่ไม่กล้าเจอเขา ก็โทรบอกพี่ที่อเมริกา ว่าถ้านายกลับมาปีหน้า เราไปเจอเขากันมั้ย อยากเช็กหน่อยว่ะ ว่าอภิสิทธิ์ที่เราต้องได้รับมีอะไรบ้าง"
แล้วเจอพ่อมั้ย?
"พอพี่กลับมาก็ไปเจอพ่อครับ เขานัดไปเจอที่เพชรเกษมที่บ้านหลังใหญ่ แต่เจอแล้วฟีลมันไม่ได้ เจอแค่ครึ่งชม. ไม่รู้สึกผูกพัน แล้วรู้สึกว่าไม่เอาดีกว่า ไม่อยากมายุ่ง ชีวิตนี้ได้เห็นพ่อครั้งนึง ได้รู้จักหน้า แต่ทรงเขาดีนะ อารมณ์เหมือนขับฮาเล่ย์ ผมยาว แต่เขาไม่สักนะ"
ทุกวันนี้ยังคุยกันมั้ย?
"ผมเจอประมาณ 9-10 ครั้งในชีวิตผม ผมไปซื้อบ้านที่วังหิน แล้วทำบริษัทตรงนั้น ที่ผมไปซื้อเพราะผมเคยไปเยี่ยมอา และเขาอยู่ในหมู่บ้านนี้ ผมก็ไปซื้อบ้านตรงนี้ทำบริษัท ผมจะเจอเขาก็เวลาที่เขามาเยี่ยมน้องชาย เขาเดินผ่านก็แค่ทักทายกัน เท่านั้นเอง ผมก็ไม่ต้องการให้ใครดูแล ผมดูแลตัวเองได้ ผมเป็นลูกผู้ชาย"
จะเลี้ยงดูเขามั้ย?
"ไม่ เลี้ยงเพื่อ เปลืองตังค์ เลี้ยงผู้หญิงดีกว่า มันไม่ใช่ชีวิตผม เขาไม่ได้เลี้ยงผมมา ไม่จำเป็นต้องตอบแทนพระคุณ เอาตรงๆ นะ ผมไม่มโน ผมไม่ได้มองว่าโห พ่อแม่เกิดเรามาเป็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่ ผมมองว่าสองคนเขามีเซ็กซ์กัน เขามีความสุขกัน วันหนึ่งเขาเกิดเรามา ถ้าเขาไม่ได้เลี้ยงดูเรา ผมก็มองว่าเขาก็แค่คนธรรมดาที่ไร้สมรรถภาพ ไร้ความรับผิดชอบ ผมไม่เคารพ นึกออกมั้ย แต่คนที่เลี้ยงเรามา ไม่ว่าหมา วัว หรือใครก็แล้วแต่ ผมมองว่านั่นคือพ่อแม่ที่แท้จริง"
กลัวคนไทยจะรู้สึกว่านิกกี้ก้าวร้าวมั้ย?
"เขาไม่ได้ให้ตังค์ผมนี่ ผมแคร์ทำไม ชีวิตผมข้าวทุกจาน ผมหาซื้อกินของผมเอง ผมหาเงินเข้ากระเป๋าผม"
ไม่กลัวคนว่าเนรคุณ?
"เนรคุณอะไร เขาไม่ได้เลี้ยงผมมา ผมเลี้ยงแม่ผม ผมดูแลแม่ผม นั่นแหละคือคนที่ผมให้ค่า ผมดูแลซิสเตอร์ ที่เป็นแม่ชีที่เลี้ยงผมมา อันนั้นคือแม่ของผม ที่ผมให้ค่า ที่ผมต้องดูแลทุกอย่าง ยันค่าโทรศัพท์มือถือ"
คุณรับผิดชอบแม่ดีมาก?
"ผมรักแม่ผมมาก คนที่คิดแล้วไม่พูดก็มีเยอะ ต้องบอกว่าเป็นมุมมองครับ แต่ผมเป็นคนที่คิดแล้วพูด คิดอะไรแล้วผมก็ทำ ถ้าคิดแล้วไม่ทำก็เพ้อเจ้อ ถ้าคุณฝันแล้วคุณทำ มันก็เป็นสัจธรรมและกลายเป็นชีวิตจริง ทุกสิ่งที่คิดผมทำ ผมไม่เพ้อเจ้อ คนเลยถามว่าทำไมยังอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะผมไม่เพ้อเจ้อ ผมคิดแล้วผมทำ"
ถ้าย้อนเวลาได้ อยากให้ความสัมพันธ์กับพ่อกลับมามั้ย?
"ดูแลคงไม่ เราเคยเจอกันแล้ว ผมไม่ใช่เบบี๋แล้ว ผมจะ 41 แล้ว จะให้พ่อโอ๋ก็คงไม่ใช่เรื่อง เราเป็นหมาใหญ่แล้ว ต้องดำเนินชีวิตของเรา"
เพราะชีวิตพ่อแม่เป็นแบบนี้หรือเปล่า ทำให้ไม่มายด์ที่ต้องแต่งงานแล้วหย่าภรรยา?
"ผมว่ามันไม่ต่างกันผู้หญิงผู้ชายที่เลิกกัน หรือกิ๊กที่มีอะไรกันแล้วไม่ได้เจอกันอีก เท่านั้นเอง เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ เราอึดอัด ก็แยกทางกัน เป็นเพื่อนกัน"
ทำไมเลิกกัน?
"ไม่ขอพูดเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับบุคคลอื่น แต่พูดแค่ว่าเราไม่แฮปปี้ เราก็ถอย เวลาจะทำอะไรก็แล้วแต่ ชีวิตผมโดนมากๆ เรื่องที่เสียใจคือคนชอบบอกนิกกี้ชอบคนไฮโซ ขอโทษนะพี่ ผมหาเงินได้ตั้งแต่เด็ก ชีวิตผมแทบไม่ต้องใช้จ่ายอะไร ผมคบใครผมเปย์ ผมก็เทคแคร์เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด และดูแลคนอื่นด้วย"
เพราะไม่อยากมีลูกเลยแยกทางหรือเปล่า?
"ไม่เกี่ยว เรื่องมีลูกเฉยๆ นะ ทุกอย่างในชีวิตผมเชื่อเรื่องพระเจ้า ผมมองว่าทุกอย่างถูกขีดเส้นไว้ ถ้าคนมันจะมีก็มี ถ้าจะไม่มีก็ไม่มี การกระทำคือครึ่งนึง ชะตาลิขิตอีกครึ่งนึง ไม่ใช่วันนี้ไปตกปลาแล้วต้องได้ปลา"
คุณเป็นผู้ชายเจ้าชู้?
"ไม่ได้เจ้าชู้ แต่ผมมีแฟนเยอะ ผมมีแฟนผมก็หยุด แต่เวลาไม่มีแฟน ผมก็มีผู้หญิงเข้ามาชอบผมเยอะ มีเพื่อนผู้หญิงเยอะ มีอะไรกับผู้หญิงทุกคนที่เขาพร้อมมีอะไรกับผม ผมไม่รู้เจ้าชู้หรือเปล่า แต่ไม่ได้ผูกมัดคำว่าแฟน ผมว่าผมเป็นคนดี รักผมมันหอมหวานพี่ ผู้หญิงเจอผมเข้าไป เขามาคบผม ผมก็บอกสถานะก่อนนะ ว่าไม่ผูกมัด ผมสวิงนะ ผมไปเรื่อยนะ"
บอกสาวๆ ไว้ก่อน ทุกวันนี้ก็สวิงอยู่?
"ผมมีแฟนเยอะ แต่ผมไม่ค่อยออกสื่อแค่นั้นเอง แต่เดน่าออกสื่อแค่นั้นเอง"
เดน่าพิเศษกว่าคนอื่น?
"ใช่ เดน่าเป็นมือขวาของผม เป็นคนที่ซื่อสัตย์กับผม เก็บไว้ข้างตัว ไว้ใจได้"
เรียกแฟนได้มั้ย?
"ไม่ เรียกเดน่า เรียกแฟนทำไม ผู้หญิงที่อยู่กับผมทุกคน ทำงานให้ผมหมด ผมจ่ายเงินเดือนให้ทุกคน จบมั้ยพี่ ผมมีเงินเดือนให้เดน่าทุกเดือนด้วย ซึ่งคนไม่รู้ เฉพาะเดน่า ผมให้เดือนละ 3 หมื่น"
หลายคนบอกคุณชอบจับไฮโซ?
"หึ มีแต่ไฮโซอยากเอาผม สมัยก่อนนิกกี้อย่างโน้นอย่างนี้สุดท้ายโทรมาหาผม และมีความสัมพันธ์ที่ดีกัน"
เขาว่าคุณเซ็กซ์จัด?
"คนเซ็กซ์จัดเขาเรียกคนสุขภาพจิตดี ไฮคิวผมสูงมากนะพี่ คนไม่เซ็กซ์เขาเรียกคนมีปัญหา ผมเซ็กซ์จัด ผมสุขภาพจิตดี"
ทุกวันนี้มีตังค์อู้ฟู่มั้ย?
"ไม่จำเป็น ผมใช้ตังค์วันละ 200-300 บาทเองวันนึง ผมไม่ได้สนใจตรงนั้น สำหรับผมไม่ต้องใช้เงินก็ได้ ผมไปนอนบ้านผู้หญิง ผู้หญิงก็เลี้ยงข้าวด้วยซ้ำไป ชีวิตผมคำว่าเพลย์บอย เป็นแค่นิยาม ชีวิตผมเป็นแบบนี้ ผมอยู่ให้ผู้หญิงเทคแคร์ทุกบ้าน ผมมีหลายบ้านด้วย ไม่ต้องจ่ายสักบาท ผู้หญิงต้องรับได้ ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาอยู่กับผม"
ตอนนี้มีกี่บ้าน?
"2-3 บ้าน แต่เดน่าอยู่บ้านผมนะ อยู่กับแม่ผม"
มีคนในวงการมั้ย?
"ไม่ คนในวงการเรื่องเยอะ แล้วต้องรักษาภาพ ผมไม่มีภาพ"
อยากบอกอะไร?
"ถ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผม อย่ามโน ผมเฟี้ยว"
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ