เศษซาก "เมืองเชอร์โนบิล" โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกไม่เคยลืม

เศษซาก "เมืองเชอร์โนบิล" โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกไม่เคยลืม

เศษซาก "เมืองเชอร์โนบิล" โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกไม่เคยลืม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชอร์โนบิล ที่กลายเป็นเมืองถูกทิ้งร้างเอาไว้กว่า 3 ทศวรรษ จากเหตุโศกนาฏกรรมทางนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรง ที่ถูกจารึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์โลก

ภาพเศษซากโรงเรียน สนามเด็กเล่น สวนสนุก และอาคารต่างๆ ที่ถูกปล่อยรกร้างยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ บริเวณใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “เชอร์โนบิล” ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟของยูเครนไปทางเหนือราว 110 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่เกิดอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดคราหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1986 หรือ 33 ปีที่แล้ว

อุบัติเหตุครั้งนั้นเกิดจากการทดสอบระบบช่วงกลางคืน แต่เกิดความผิดพลาดทำให้แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 หลอมละลายจนเกิดระเบิดขึ้นมา มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 30 ราย และกัมมันตภาพรังสีที่มีอันตรายร้ายแรงรั่วไหลกว่า 8 ตัน แพร่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ส่งผลกระทบทั้งในยูเครน รัสเซียตะวันตก และกลุ่มประเทศยุโรป สร้างภัยอันตรายระยะยาวแก่มนุษย์ สัตว์ และพืชพรรณ นำไปสู่การอพยพครั้งใหญ่จนบางเมืองกลายเป็นเมืองร้างเฉกเช่นเมืองปริเปียต (Pripyat)

อย่างไรก็ดี หลังจากกาลเวลาล่วงเลยกว่า 3 ทศวรรษ ระดับความรุนแรงของกัมมันตภาพรังสีค่อยๆ เบาบางลง ยูเครนจึงเปิดให้เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ที่เคยถูกปิดตายในรัศมี 30 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าฯ ในปี 2010 และมีการจัดโปรแกรมนำเที่ยวในปี 2018

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ เศษซาก "เมืองเชอร์โนบิล" โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกไม่เคยลืม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook