ซาดิโอ มาเน่ ขอตอบแทนบุญคุณบ้านเกิด ไม่ลืมน้ำใจคนในชุมชน ช่วยสานฝันจนดังระดับโลก

สาธารณรัฐเซเนกัล เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกาตะวันตก มีพรมแดนทางตะวันตกจรดมหาสมุทรแอตแลนติก ทางเหนือจรดประเทศมอริเตเนีย ทางตะวันออกจรดประเทศมาลี และทางใต้จรดประเทศกินีและประเทศกินี-บิสเซา โดยล้อมประเทศแกมเบียซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศไว้เกือบทั้งหมด มีเนื้อที่ 196,722 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าภาคอีสานของประเทศไทยทั้งภาคเล็กน้อย)

เมืองหลวงคือดาการ์ มีประชากรประมาณ 14,354,690 คนประชากรส่วนใหญ่กว่า 90% นับถือศาสนาอิสลาม ประเทศเซเนกัลเป็นประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอดภายหลังจากที่ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2503 ไม่เคยมีรัฐประหารเลยแม้แต่ครั้งเดียวถือได้ว่าเซเนกัลเป็นหนึ่งในประเทศประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในทวีปแอฟริกา

ชีวิตวัยเด็กสุดลำเค็ญนักฟุตบอลดัง

ซาดิโอ มาเน่ นักฟุตบอลตัวฉกาจได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของทีมฟุตบอลลิเวอร์พูลเกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2535 ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อบัมบาลี ในเมืองเซดีอู ทางตอนใต้ของประเทศเซเนกัล เป็นบุตรชายคนที่หกของอิหม่ามแห่งมัสยิดประจำหมู่บ้านที่ยากจน ไม่สามารถจะเลี้ยงดูลูกทั้งหมดเองได้ ถึงขนาดว่าต้องให้ ซาดิโอ มาเน่ ไปอาศัยกินอยู่หลับนอนอยู่ที่บ้านลุงผู้เป็นพี่ชายของมารดาของเขา แต่เขาก็ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะยากจน

ซาดิโอ มาเน่ คลั่งไคล้กับการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กเขาจะเล่นฟุตบอลอยู่ข้างถนนแถวบ้านทุกเช้าเย็นและเมื่อ พ.ศ. 2545 ที่ฟุตบอลทีมชาติของเซเนกัลได้สร้างปาฏิหาริย์ในมหกรรมฟุตบอลโลกที่จัดที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นโดยเขี่ยทีมฝรั่งเศสแชมป์เก่าตกรอบแรกและทีมเซเนกัลได้เข้าแข่งขันในรอบก่อนชิงชนะเลิศเลยทีเดียวซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ซาดิโอ มาเน่ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต

ซาดิโอ มาเน่เริ่มเล่นทัวร์นาเมนต์เล็กๆ ในหมู่บ้านจนสามารถเอาชนะได้ทุกนัด คนทุกคนในหมู่บ้านยอมรับว่าเขาเก่งที่สุดในหมู่บ้าน แต่ครอบครัวของเขาไม่เคยมีนักฟุตบอลมาก่อนและให้ความสำคัญกับทางศาสนามากกว่า แต่ซาดิโอ มาเน่เริ่มโน้มน้าวลุงของเขาให้ช่วยส่งเสริมให้เขามีโอกาสเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จนกระทั่งลุงและครอบครัวถึงกับช่วยกันขายพืชผลเพื่อที่จะส่งมาเน่ ออกไปสู้ชีวิตในโลกใหม่ด้วยตัวของเขาเอง

คนที่สนับสนุนเขาไม่ได้มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้น แต่รวมถึงคนอื่น ๆในหมู่บ้านเช่นกัน คนที่มองเห็นพรสวรรค์ของเขามาตั้งแต่เด็กๆ ก็ยอมที่จะรวบรวมเงินและส่งมาเพิ่มให้เพื่อความแน่ใจว่า เด็กหนุ่มความหวังของหมู่บ้านมีเงินมากพอที่จะออกสู่โลกกว้างภายนอกให้ได้ แทบจะเรียกได้ว่าเกือบทุกคนในหมู่บ้านรวบรวมเงินให้กับมาเน่ และเมื่อมาเน่ไปถึงชานเมืองหลวงดาการ์

มุ่งสู่เมืองหลวงด้วยความหวัง

เขาก็ได้ไปขออาศัยอยู่กับครอบครัวที่เขาไม่รู้จักเลย โดยเอาเงินที่มีอยู่ให้ครอบครัวนี้ทั้งหมดและชี้แจงถึงแรงจูงใจและวัตถุประสงค์ที่แน่วแน่ว่าเขาปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้จึงได้อาศัยอยู่ด้วย และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตามอัตภาพโดยคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ให้มาเน่ใช้เวลาทั้งหมดกับในเรื่องฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

จุดประสงค์ของ มาเน่ในการมาเมืองหลวงดาการ์ก็คือการมาทดสอบฝีเท้ากับทีมอคาเดมีชื่อดังของประเทศเซเนกัลทีมหนึ่ง แต่เมื่อมาถึงแล้วเนื่องจากความที่เป็นคนยากจนมีเสื้อกางเกงฟุตบอลเก่าขาดและรองเท้าคร่ำคร่าจนเขาถูกมองเป็นตัวตลกเมื่อไปถึงที่ทดสอบนั่น แต่ภายหลังการทดสอบมาเน่ก็ได้รับเลือกเป็นอันดับแรกเลยทีเดียว

ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอายุน้อย จากความมานะ

หลังจากที่มาเน่ได้เข้าร่วมทีมอคาเดมีของสโมสรท้องถิ่นนั้นเขาได้แสดงฝีเท้าเพียง 2 ฤดูกาล มีสถิติที่ไม่เป็นทางการเปิดเผยไว้ว่ามาเน่ยิงประตูได้ถึง 131 ลูกจากการลงเล่น 90 นัด จนกระทั่งแมวมองชาวฝรั่งเศสที่มาแสวงหาช้างเผือกนักฟุตบอลในทวีปแอฟริกาถูกใจ และพาเขาข้ามน้ำข้ามทะเลไปฝรั่งเศสด้วยวัยเพียง 15 ปี เพื่อลงเล่นกับ เม็ตซ์ ทีมจากลีก เอิง ฝรั่งเศส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเขาบนเส้นทางลูกหนังในยุโรป ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ทีมเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในประเทศออสเตรีย และได้มาเล่นในพรีเมียร์ลีกให้กับทีมเซาธ์แฮมป์ตัน

จนกระทั่งปัจจุบันนี้ มาเน่ ก็ได้มาค้าแข้งกับทีมทีมลิเวอร์พูลที่เกริกไกร และมีค่าตัวแพงระยับเป็นมหาเศรษฐีก่อนอายุ 25 ปีด้วยซ้ำไป

ไม่ลืมตอบแทนบุญคุณ

ซาดิโอ มาเน่ไม่เคยลืมตัวแถมยังเป็นเคร่งศาสนาอีกด้วยเขาละหมาด (สวดมนต์) วันละ 5 ครั้งตามหลักศาสนาอิสลามและส่งเงินไปสร้างเสริมมัสยิดที่พ่อของเขาเป็นอิหม่ามประจำอยู่และสร้างโรงพยาบาลรวมทั้งสนามกีฬาในหมู่บ้านทั้งสองแห่งที่เขาเกิดและเติบโตที่ฮือฮาที่สุดคือเขาได้บริจาคเงินส่วนตัว จำนวน 200,000 ปอนด์ (7.7 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงเรียนมัธยมปลายให้กับหมู่บ้าน ตอบแทนที่ชาวบ้านทั้งหลายพากันขายพืชผลเพื่อส่งเขาไปเล่นฟุตบอลที่เมืองหลวงอีกด้วย

เขามอบให้ลุงที่เลี้ยงเขายามเด็กเป็นผู้จัดการการก่อสร้างโดยมาเน่กล่าวว่าแม้เขาจะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือแต่ก็ตระหนักดีว่าการศึกษาเป็นความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาผู้คนให้พัฒนาก้าวหน้าได้ต่อไป

ครับ ! ตามหลักพระพุทธศาสนาสอนว่า "ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี" กล่าวคือกตัญญูคือการสำนึกรู้คุณ ส่วนกตเวทีคือการตอบแทนคุณท่าน ซึ่งส่วนใหญ่คนทั่วไปอาจสำนึกรู้คุณแต่ไม่มีโอกาสหรือความสามารถที่จะตอบแทนคุณคือกตเวทีได้เหมือนอย่างซาดิโอ มาเน่นักฟุตบอลชาวเซเนกัลที่อยู่ในหัวใจของเหล่าสาวกทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลสามารถแสดงกตเวทีได้อย่างเต็มเปี่ยม