อดีตพ่อสามีร่วมวงแฉ "ครูวา" ไม่เคยรู้ลูกสะใภ้เป็นสาวสอง อยู่กิน 6 เดือนเสียทรัพย์นับแสน
จากกรณีสาวประเภทสอง หรือ “ครูวา” ขวัญใจหนุ่มๆ ชาวบิ๊กไบค์ จนได้รับฉายาในวงการว่า “นางฟ้าไบค์เกอร์” ใส่เครื่องแบบชุดกากีอ้างเป็นครู แต่มีพฤติกรรมต้มตุ๋นหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากบรรดาชายหนุ่มไปหลายรายตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
>> เพจดังขุดแฉ "ครูวา" นางฟ้าไบค์เกอร์ ที่แท้ไม่ใช่ผู้หญิง หลอกผู้ชายสูญนับแสน
(17 พ.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง “ครูวา” หรือ นายภานุพงศ์ หรือ นายปพิชญา หรือ นายธัญญฐิชา ภูมิลำเนาอยู่ จ.ชุมพร ตกเป็นข่าวกรณีดังกล่าว ได้มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อทยอยออกมาแฉพฤติกรรม โดยอ้างเป็นครูสาวหลอกลวงและขโมยทรัพย์สินเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มมีฐานะดี ล่าสุดได้มี ร.ต.วีระศักดิ์ อายุ 59 ปี พร้อมด้วยภรรยาและลูกสาว ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่เคยตกเป็นเหยื่อของ “ครูวา” เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเพื่อไม่ให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อของ “ครูวา” อีกต่อไป
ร.ต.วีระศักดิ์ กล่าวว่าปัจจุบันตน ออกจากราชการทหารหลายปีแล้ว ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ลูกชายตนเป็นทหารอยู่ชายแดนภาคใต้ยศสิบเอก ได้คบหากับ “ครูวา” ทั้งสองคนไปมาหาสู่กันทั้งที่บ้านตนเองและบ้านของฝ่าย “ครูวา” จนเป็นที่รับรู้กันว่า “ครูวา” เป็นลูกสะใภ้ตน ทั้งคู่คบหากันได้กว่า 6 เดือน โดยที่ลูกชายตนและครอบครัวไม่รู้เลยว่า “ครูวา” เป็นสาวประเภทสองเพราะเหมือนผู้หญิงทุกอย่าง และเกือบทุกครั้งที่ “ครูวา” มาหาลูกชายและมานอนที่บ้านจะแต่งตัวในชุดข้าราชการครู โดยบอกว่าเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร และรับจ้างสอนพิเศษอีกหลายแห่ง ช่วงที่คบหากับลูกชายตนกว่า 6 เดือนได้เอาบัตรเอทีเอ็มลูกชายตนไปกดเงินเดือนเข้าบัญชีตัวเองเดือนละ 1 หมื่นบาท อ้างว่าเก็บสะสมไว้ใช้เป็นเงินทุนสร้างครอบครัวและเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของลูกชายตน
ร.ต.วีระศักดิ์กล่าวว่าจนกระทั่งวันหนึ่ง “ครูวา” นำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท มาฝากไว้กับนางสุมตราภรรยาตน แล้วบอกว่าจะไปธุระที่ต่างจังหวัดไม่อยากใส่ไปเพราะกลัวอันตราย ภรรยาตนก็ใจดีเอาสร้อยทองไปเก็บรวมไว้กับของภรรยาและของตนที่เก็บสะสมไว้เกือบ 5 บาท โดยพาไปเก็บไว้ในตู้ภายในบ้านซึ่ง “ครูวา” ก็ตามไปดูด้วย ต่อมาตนและภรรยาต้องเดินทางไปทำธุระที่กรุงเทพฯ ช่วงที่ตนไม่อยู่ลูกชายกลับมาจากชายแดนใต้ได้พา “ครูวา” มานอนที่บ้านด้วยกัน แต่หลังที่ตนและภรรยากลับจากกรุงเทพฯ ปรากฏว่าทองคำทั้งหมดที่เก็บไว้หายไป เมื่อสอบถาม “ครูวา” ก็ปฏิเสธไม่รู้เห็น ทำให้ตนเกิดความไม่ไว้ใจลูกสะใภ้คนนี้อีกเพราะที่บ้านตนอยู่กันมานานไม่เคยมีทรัพย์สินหายมาก่อนเลย
ร.ต.วีระศักดิ์ กล่าวว่าต่อมาได้มีเพื่อนบ้านที่สนิทกับตนและรู้จักกับครอบครัวของ “ครูวา” มาบอกตนว่า “มึงรู้หรือเปล่าว่าลูกสะใภ้มึงเป็นกะเทย” ตนก็ยังไม่เชื่อพอสอบถามลูกชายตนก็ยืนยันว่า “ครูวา” เป็นผู้หญิงแท้ เมื่อตนเริ่มสงสัยในพฤติกรรมจึงสอบถามไปที่เพื่อนตนคนหนึ่งที่บ้านอยู่ใกล้กับบ้านของ “ครูวา” ในพื้นที่ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งพ่อ “ครูวา” เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่นั่นด้วย แล้วเพื่อนตนก็โทรมาบอกว่าลูกสะใภ้มึงเป็นกะเทยจริงๆ” ตนตกใจมาก
ร.ต.วีระศักดิ์กล่าวว่าหลังจากรู้ความจริงว่า “ครูวา” เป็นสาวประเภทสองและไม่ได้เป็นครูจริง “ครูวา” เริ่มจะรู้ตัวเอง จึงหาเหตุผลทิ้งลูกชายตนไป อ้างว่าลูกชายตนไปมีกิ๊ก ส่วนแหวนทองของลูกชายตนที่เอาไปใส่และเงินของลูกตนเดือนละหมื่นที่กดจากบัตรเอทีเอ็มเข้าบัญชีตนเอง “ครูวา” ก็ไม่ยอมคืนให้ ซึ่งขณะนั้นลูกชายตนรับราชการก็ไม่อยากไปแจ้งความให้เป็นเรื่องเพราะอายชาวบ้าน เมื่อรวมๆ ทรัพย์สินที่เป็นทองคำรูปพรรณและเงินเดือนของลูกชาย และของครอบครัวที่สูญหายไปในช่วงที่คบหากันกว่า 6 เดือน หมดไปเกือบ 2 แสนบาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนมาเห็นข่าวที่ “ครูวา” ไปหลอกใครต่อใครอีกหลายคน จึงต้องออกมาแฉพฤติกรรมเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่สังคมไม่ให้ใครตกไปเป็นเหยื่อของ “ครูวา”อีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยอยู่กับครอบครัวของ ร.ต.วีระศักดิ์ ลูกชายซึ่งมียศสิบเอกได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนใต้ได้โทรเข้ามายังมือถือของผู้เป็นแม่แล้วเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังและยืนยันว่าเป็นจริงตามที่ผู้เป็นพ่อเล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังและที่ผ่านมาได้หลับนอนกับ “ครูวา” ก็ไม่รู้เลยว่า “ครูวา” เป็นกะเทยแต่อย่างใดเพราะทุกอย่างเหมือนผู้หญิงจริงๆ
>> เปิดใจพ่อ "ครูวา" นางฟ้าไบค์เกอร์ ไม่รู้ลูกชายก่อคดีลวงโลก เผยอดีตเคยแต่งงานแล้ว