"อาม่า" ขึ้นศาลแพ่ง ยื่นฟ้องถูกลูกสาว แอบถอนเงินกว่า 250 ล้านบาท

"อาม่า" ขึ้นศาลแพ่ง ยื่นฟ้องถูกลูกสาว แอบถอนเงินกว่า 250 ล้านบาท

"อาม่า" ขึ้นศาลแพ่ง ยื่นฟ้องถูกลูกสาว แอบถอนเงินกว่า 250 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"อาม่า" วัย 76 เดินทางไปฟ้องศาลแพ่งพระโขนง หลังลูกสาวแท้ๆ และพนักงานธนาคาร แอบรวมหัวกันปลอมแปลงเอกสาร ถอนเงินออกไปกว่า 250 ล้านบาท

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้เดินทางมายังศาลแพ่งพระโขนง เพื่อฟ้องธนาคารแห่งหนึ่งพร้อมพนักงานธนาคาร จำนวน 4 คน และนางมาวดี เพื่อเรียกเงินที่ถูกลักไปพร้อมค่าเสียหายคืน จำนวนกว่า 350 ล้าน สืบเนื่องจาก นางฮวย อายุ 76 ปี และนางสาวมินตรา หลานสาวได้ติดต่อขอความช่วยเหลือในคดีที่ถูกพนักงานธนาคารและลูกสาวของนางฮวย ได้ทำการลักทรัพย์ซึ่งเป็นเงินในบัญชีเงินฝากของธนาคารแห่งหนึ่งออกไปจากบัญชี เหตุเกิดในช่วงที่นางฮวยนอนรักษาตัวจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

โดยในวันนี้ นางฮวย ได้เดินทางมายังศาลแพ่งพระโขนง ด้วยตนเองโดยนั่งรถเข็น มี นางสาวมินตรา หลานสาวเป็นผู้พามา โดย อาม่าฮวย ไม่สามารถที่จะพูดได้มานานกว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากเจาะคอ แต่สามารถรับรู้และมีสติสมบูรณ์ สื่อสารได้ตลอดเวลาโดยการพยักหน้า

ขณะที่ นางสาวมินตรา ได้กล่าวว่า ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่ต้นปี 2556 ด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ มาเป็นเวลานาน โดยมีอาการมือเท้าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยได้รับการดูแลจากนางมาวดี ลูกสาวของอาม่า ภายหลังจากออกจากโรงพยาบาล

จนกระทั่งปี 2559 พ่อของตนเองคือ นายมานพ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของอาม่า ไปพบว่าอาม่ามีอาการไม่ดีขึ้นและมีความประสงค์ที่จะย้ายมาอยู่ที่บ้านของพ่อแทน จึงได้นำกลับมารักษาตัวและอาการดีขึ้นตามลำดับ และอาม่าได้มีการตรวจสอบตู้นิรภัย ซึ่งเป็นที่เก็บสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และกองทุนบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรธนาคารแห่งหนึ่ง พบว่าจำนวนเงินในบัญชีได้หายไปรวมกว่า 250 ล้านบาท

ทนายอนันต์ชัย ระบุภายหลังจากได้รับการติดต่อเพื่อให้ช่วยเหลือในคดีดังกล่าว ตนเองทำการยื่นฟ้องคดีแพ่งในคดีผู้บริโภคเพื่อเรียกทรัพย์สินของอาม่าฮวย รวมกว่า 250 ล้านบาทคืน เพราะต้องการให้ธนาคารออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยศาลได้นัดสืบพยานในวันที่ 17 มกราคม 2563 ในส่วนคดีอาญาศาล ได้นัดตรวจสอบพยานหลักฐานในวันที่ 16 มกราคม 2563 เช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook