"เดียร์" เย้ย "ช่อ" ไม่รู้เรื่องตลาดหุ้น หลังถูกยื่นสอบปมโอนหุ้นสื่อ "เครือเนชั่น"
จากกรณี วานนี้(22 พ.ย. 62) นางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ สืบพบว่า นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เคยถือหุ้นสื่อในเครือเนชั่น อยู่จริง พร้อมตั้งคำถามกลับถึงนางสาววทันยา ว่าที่ยื่นฟ้องตนในความผิดฐานหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา โดยอ้างว่าตนไม่ได้ถือหุ้นสื่อนั้น เมื่อมีข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนแล้วว่าเคยถือหุ้นสื่อเนชั่น ไม่ใช่อย่างที่เคยกล่าวอ้างมา และเป็นที่ประจักษ์ทั่วไปว่าคู่สมรสเป็นผู้บริหารเนชั่น จะเอามูลฟ้องมาจากที่ใด
และที่สำคัญเมื่อค้นพบว่านางสาววทันยาถือหุ้นสื่อจริงก่อนจะมาสมัคร ส.ส. โดยพรรคได้พบข้อมูลที่น่าสนใจ การโอนหุ้นสื่อของนางสาววทันยา ต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสินคดีการถือหุ้น บริษัทวี-ลัค มีเดีย ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยมีข้อพิรุธชวนให้เกิดข้อสงสัยว่า ไม่ได้มีการโอนหุ้นก่อนที่จะลงรับสมัครเลือกตั้ง ที่โดยปกติแล้วการโอนหุ้นเมื่อโอนเสร็จแล้วจะต้องแจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ โดยกรณีของนายธนาธร ต้องใช้ บอจ.6 ซึ่งแจ้งล่าช้าหลังประกาศรับสมัครเลือกตั้ง เพียง 1 เดือน แต่กรณีของนางสาววทันยา เป็นบริษัทจำกัด ( มหาชน) ต้องยื่นแบบ บอจ. 5 ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยได้ว่าล่าช้าถึง 6 เดือน
นางสาวพรรณิการ์ยังบอกอีกว่า ได้ส่งเรื่องข้อร้องเรียนไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอกกต.ใช้บรรทัดฐานเดียวกันในการตรวจสอบเอาผิดนางสาววทันยา พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญระงับการปฏิบัติหน้าที่ของนางสาววทันยา และขอให้ กกต. ดำเนินการทางอาญาตามมาตรา 151 ที่มีโทษสูงสุดคือจำคุก 10 ปี หรือ ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 20 ปีเพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
ล่าสุด ในเฟซบุ๊กของนางสาววทันยา ได้โพสต์ข้อความตอบโต้กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
"ดิฉันขอยืนยันอีกครั้งว่าได้ขายหุ้นบริษัทสื่อมวลชนทั้งหมดก่อนวันยื่นใบสมัครต่อ กกต. และมีเอกสารที่ยืนยันได้ตามกฎหมายครบถ้วน
ส่วนที่ สส. บางท่านไม่เข้าใจว่าการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องไปรายงานใดๆกับกระทรวงพาณิชย์ เพราะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มี “ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์” หรือ”TSD” เป็นนายทะเบียน ดิฉันและบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยินดีให้อภัยคนที่ไม่รู้
#ไม่รู้ให้ถาม #ผิดเป็นครู"