คุณตาหายไปกว่า 30 ปี ญาติพบตัวอีกครั้ง เพราะโซเชียลนำพาให้มาเจอกันอีก
เรื่องราวอันน่าประทับใจของคุณตาที่หายตัวไปกว่า 30 ปี ญาติคิดว่าเขาตายไปนานแล้ว ปรากฏว่าเห็นอยู่ในคลิปแชร์ในโซเชียล กลายเป็นคนงานเก่าแก่ที่ไร้อ้อย พลัดถิ่นไปหลายทศวรรษ
เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) เกิดเรื่องราวน่าเหลือเชื่อของ คุณตาบุญกอง อายุ 67 ปี ที่หายตัวไปกว่า 30 ปี แม้แต่ญาติๆ ก็นึกว่าเขาได้เสียชีวิตไปนานแล้ว กระทั่งมาเจอโพสต์ตามหาญาติผ่านเฟซบุ๊ก อดีตเคยเดินทางไปรับจ้างตัดอ้อยที่ จ.กำแพงเพชร แต่ปรากฏว่าถูกทิ้งเอาไว้เหลือเพียงคนเดียว
น.ส.เบญจวรรณ อายุ 25 ปี เหลนของคุณตาบุญกอง เปิดเผยว่า ครอบครัวได้เคยพยายามตามหาตัวนายบุญกองมากว่า 30 ปีแล้ว หลังจากนายบุญกองได้หายตัวไปจากบ้านไป เพราะแม่ของตนเคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่นายบุญกองจะออกจากบ้านได้แวะไปหาแม่ ในตอนนั้นยังเป็นเด็กอายุ 12 ปี พร้อมกับเอาเงินให้ 6 บาท เก็บให้ไว้กินขนม ก่อนที่จะหายตัวไปหลังจากนั้น
ตอนนั้นทราบเพียงว่า นายบุญกองมาหางานทำที่ จ.กำแพงเพชร โดยไปกับเพื่อนที่มาทำงานด้วยกัน หลังจากนั้นเพื่อนก็กลับไปบ้านเกิด แต่ไม่พบนายบุญกองกลับมาด้วยกัน พร้อมกับมาแจ้งครอบครัวว่า นายบุญกองได้เสียชีวิตลงแล้ว ญษติๆ ก็ออกตามหาอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นก็หยุดการค้นหาไป
กระทั่งล่าสุดปรากฏว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีพี่ที่รู้จักกันไปเห็นคลิปวีดีโอในยูทูปและเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายพิเชฐ อายุ 42 ปี ลูกชายนายพรชัย เจ้าของไร่อ้อย ที่กำลังตัดผมให้กับนายบุญกองและจำได้ว่าเป็นญาติของตน ตนจึงเปิดคลิปให้แม่และยายดู ทุกคนมั่นใจว่าน่าจะเป็นนายบุญกอง คุณตาที่หายสาบสูญไป จึงได้รีบติดต่อประสานมายังนายพิเชฐ เพื่อขอพบตาบุญกองและขอรับตัวกลับบ้านที่ขอนแก่น
ขณะที่ นายพิเชฐ ลูกชายเจ้าของไร่อ้อย ที่ให้การเลี้ยงดูนายบุญกองเสมือนเป็นคนในครอบครัว และเป็นผู้ที่ถ่ายคลิปวีดีโอดังกล่าว เล่าว่า ตนเห็นนายบุญกองมาตั้งแต่เด็ก แต่ตนจะเรียกว่า บัวกอง เป็นคนงานที่มาตัดอ้อยในไร่แล้วไม่ได้กลับบ้าน เนื่องจากคนงานที่มาด้วยกันกลับไปหมด จากนั้นครอบครัวของตนก็ได้เลี้ยงดูและให้ช่วยงานทั้งในไร่และในบ้านเรื่อยมา ครอบครัวก็มองนายบุญกองเป็นเหมือนคนในครอบครัวเช่นกัน
โดยปกคิตนก็จะคอยเข้ามาพูดคุยดูแลสารทุกข์สุขดิบ อาบน้ำตัดผมให้บ้าง เนื่องจากนายบุญกองอายุเยอะและช่วยเหลือตัวเองได้บ้างไม่ได้บ้าง มีอาการหลงๆ ลืมๆ ตามวัย กระทั่งตนได้อัดคลิปวีดีโอตอนตัดผมให้กับนายบุญกองและนำไปโพสต์ลงโซเชียล แล้วปรากฏว่ามีญาติของนายบุญกองมาพบ แล้วประสานงานมาเพื่อขอรับตัวกลับ ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจ แต่ก้รู้สึกใจหาย เพราะรักผูกพันกับนายบุญกองมานานเช่นกัน จากนี้ก็ขอให้นายบุญกองได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงอย่างมีความสุข
ขณะที่บรรยากาศหลังจากที่ได้พบเจอตัว นายบุญกอง อีกครั้ง เป็นไปด้วยความชื่นมื่นปนขมขื่น เพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือดูแลนายบุญกองต่างเดินทางมาพูดคุย โดยครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายได้มาขอบคุณและร่ำลา พร้อมทั้งพากันส่ง นายบุญกอง ขึ้นรถกลับบ้านทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตาแห่งความสุข เพราะความผูกพันกันมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี