ตำรวจโชว์รวบยกแก๊ง ทำเนียนหอบเงินดอลลาร์ปลอม หวังแลกเงินเป็นล้าน

ตำรวจโชว์รวบยกแก๊ง ทำเนียนหอบเงินดอลลาร์ปลอม หวังแลกเงินเป็นล้าน

ตำรวจโชว์รวบยกแก๊ง ทำเนียนหอบเงินดอลลาร์ปลอม หวังแลกเงินเป็นล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจท่องเที่ยวตลบหลังจับแก๊งปลอมธนบัตร หอบเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปลอมยกกอง มาทำทีขอแลกเป็นเงินบาทไทย จำนวนกว่า 1.2 ล้านบาท แต่พนักงานไหวตัวทัน

เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.ต.นันทพัทธ์ เทพประสิทธิ์ สว.สส. ร่วมกันจับกุมแก๊งคนไทยเอาแบงก์ดอลลาร์สหรัฐปลอมตระเวนแลกเงินในพื้นที่เมืองพัทยา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ขวัญฤทัย อายุ 37 ปี นายสังวาล อายุ 51 ปี และนายธนกฤต อายุ 55 ปี พร้อมของกลาง ธนบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐปลอม ชนิดราคา 100 ดอลลาร์ จำนวน 398 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวว่า การจับกุมสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่ามีคนไทยจำนวน 2 คน นำธนบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐปลอม ฉบับละ 100 ดอลลาร์ จำนวน 398 ใบ คิดเป็นเงินไทยมูลค่ากว่า 1,200,000 บาท มาแลกเป็นเงินบาทที่ร้านแลกเงินของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่สำนักงานใหญ่ ถ.พัทยาสายสอง

ในเวลาต่อมาจึงได้ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ไปตรวจสอบพบ น.ส.ขวัญฤทัย และ นายสังวาล กำลังจะพยายามหลบหนี ตำรวจจึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวน และนำธนบัตรมาตรวจสอบ ทั้งนี้จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าธนบัตรทั้งหมดเป็นของปลอม

จากการสอบถามผู้ต้องหาทำให้ทราบว่า ได้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อนำธนบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐปลอมมาแลกเป็นเงินสกุลบาทไทยที่ตู้แลกเงินในพื้นที่เมืองพัทยา แต่พนักงานร้านรับแลกเงินตรวจสอบพบว่าเป็นของปลอม ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด

จากการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์พบการสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ของทั้งคู่ พบว่าได้รับธนบัตรดังกล่าวมาจาก นายธนกฤต จึงรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับ นายธนกฤต กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพมหานคร

ขณะที่ นางคะนึงนาถ อายุ 37 ปี ผู้จัดการร้านแลกเงิน เปิดเผยข้อมูลด้วยอีกว่า สำหรับการดูธนบัตรดอลลาร์ปลอมนั้นไม่ยากมากนัก โดยสังเกตผิวจากธนบัตรก็สามารถมั่นใจได้ทันที เนื่องจากธนบัตรปลอมจะมีเนื้อผิวคอนข้างลื่น ถ้านำมาเปรียบเทียบกับธนบัตรของจริง

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่าเป็นที่จำนวนธนบัตรมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาทในรอบหลายปี จึงอยากฝากไปยังผู้ประกอบการร้านให้ช่วยกันระวังหากพบการผิดสังเกตแจ้งตำรวจตรวจสอบจับกุมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของธนบัตรซึ่งสร้างความเสียหายต่อประเทศไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook