"ปีเตอร์" ยังทำใจไม่ได้ เผยได้อยู่เคียงข้างน้องชายจนถึงวินาทีสุดท้าย
ยังคงอยู่ในความเศร้าโศก เพราะต้องสูญเสียน้องชายผู้เป็นที่รัก อย่าง ไมเคิล คอร์ป ไดเรนดัล อย่างไม่มีวันกลับ อันเนื่องมาจากอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย สำหรับนักแสดงหนุ่ม ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (25 พ.ย. 62) ทางครอบครัวไดเรนดัล ก็ได้จัดพิธีรดน้ำศพตามประเพณี และสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรก ณ ศาลา 26 วัดธาตุทอง สิงหเสนี ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่พีธีการทางศาสนาในช่วงหัวค่ำ หนุ่มปีเตอร์ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความผูกพันระหว่างเจ้าตัวกับน้องชาย รวมไปถึงช่วงเวลาที่หนุ่มไมเคิลเข้ารับการรักษาให้เราฟังว่า
"สิ่งที่เกิดขึ้นมันเร็วจนเราเองก็ตกใจ และทุกคนในครอบครัวเราต่างก็ยังทำใจไม่ทัน เพราะอาการป่วยของเขามันเริ่มต้นมาจากการปวดท้อง ซึ่งตอนนั้นเขายังตรวจและรักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศ จนกระทั่งเขาพบว่ามีอาการตับอ่อนอักเสบ เขาจึงบินกลับมารักษาตัวที่เมืองไทย จากนั้นก็เข้าห้องไอซียูเลย ตอนแรกก็ยังหาสาเหตุไม่เจอนะครับว่ามันเกิดจากอะไร เพราะอาการของเขามันไม่หายสักที แถมยังเจออาการนู้นอาการนี้แทรกซ้อนเข้ามาตลอด อย่างเช่นอาการน้ำในปอด จนกระทั่งมันถึงจุดที่น้ำในปอดเยอะขึ้น และต้องดูดน้ำออก ตอนนั้นถึงได้พบว่ามันมีเชื้อมะเร็งแฝงอยู่ ซึ่งเป็นชนิดที่ไม่ค่อยมีใครเป็น"
"ทีนี้พอเรารู้แล้วว่าเขาเป็นมะเร็ง ทุกคนในครอบครัวต่างก็ซีเรียส แถมยิ่งมารู้อีกว่าเป็นระยะสุดท้าย ซึ่งคุณหมอและพยาบาลทุกท่านต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาปัญหาที่มันตามมาจากเชื้อมะเร็ง แต่ว่ามันก็เร็วมาก จนในที่สุดก็หมดเวลา วันที่เขาจากไปผมก็โทรหาทุกคนในครอบครัว ซึ่งทุกคนก็ยืนข้างๆ เตียงของเขา และก็ให้กำลังใจเขาในตอนที่ชีพจรของเขาหมดไป"
จากเชื้อมะเร็งที่เกิดขึ้น สรุปแล้วก็คือเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ?
"มันเริ่มจากกระเพาะครับ และมันก็ค่อยๆ ลามไปยังจุดอื่น ซึ่งตอนที่เจอตอนนั้นจากกระเพาะเชื้อมันก็ลามเข้าไปในปอดแล้ว คือมันไม่มีสัญญาณอะไรบอกเราเลย เพราะเราเองก็มารู้ตอนที่มันถึงระยะสุดท้ายแล้ว เนื่องจากมันมีอาการต่างๆ ที่ตามมาจากมะเร็ง"
โดยปกติแล้วการดูแลตัวเองของไมเคิลเป็นอย่างไรบ้าง ?
"เขาเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมากครับ เขาเข้าฟิตเนสตลอด เพียงแต่ว่าในช่วงก่อนที่เขาป่วย เขากำลังเปลี่ยนสถานที่ทำงานเลยค่อนข้างที่จะทำงานหนัก และอาจจะทำให้เขามีเวลาพักผ่อนน้อย"
"จริงๆ ตอนที่เขาต้องเขารับการรักษา เขาก็สู้เต็มที่นะครับ สู้ตลอด อย่างบางช่วงที่เราพยายามปลุกเขาขึ้นมา เขาก็ยังตื่น ยังสบตามอง และพยักหน้าตอบคำถามได้ เวลาแซวเขา เขาก็ยังยิ้มมุมมาก"
"สำหรับผมระยะเวลา 2 เดือน ของเขามันเร็วมาก เพราะคนอื่นๆ ที่เขาป่วยเป็นมะเร็งชนิดอื่นเขาก็ยังอยู่กันได้เป็นปี ยังมีเวลาหาวิธีรักษาเพิ่มเติมได้ แต่สำหรับไมเคิลคือเขาทรุดหนักและทรุดเร็วจริงๆ"
ไมเคิลเขายังมีความเป็นห่วงหรือกังวลเรื่องอะไรบ้างไหม ?
"เขาเป็นห่วงครอบครัวของเขาครับ โดยเฉพาะลูกชายและภรรยา เพราะลูกชายเขาเพิ่งจะอายุเพียงแค่ขวบกว่าๆ แถมเขายังเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย แต่ทุกคนในบ้านก็พยายามบอกเขาให้เขาสบายใจว่าไม่ต้องห่วง และก็คอยให้กำลังใจเขาอยู่ตลอด"
"สำหรับลูกของไมเคิลตอนนี้เขาอาจจะยังเด็กอยู่ และคงยังไม่ค่อยเข้าใจว่าอะไรเป็นยังไง แต่ตอนที่เราพาเขาไปเจอกับไมเคิลที่โรงพยาบาล เขาก็จะบอกตลอดว่า 'พ่อหลับ พ่อหลับ' ซึ่งจริงๆ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ไมเคิลเขาใส่เครื่องช่วยหายใจแล้ว และคุณหมอก็ได้ให้ยานอนหลับ"
"ความผูกพันของผมกับไมเคิล เราสองคนสนิทกันมากครับ ซึ่งผมเป็นคนที่ย้ายมาอยู่เมืองไทยก่อน ส่วนไมเคิลพอเขาเรียนจบผมก็ชวนเขาให้ย้ายตามมา เราสองคนสนิทกันมากครับ ตอนนี้มันเหมือนผมขาดอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตไป แต่อย่างที่ผมบอกครับ สิ่งที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างเร็วเกินไป แต่ว่าไม่ต้องห่วงนะไมเคิล เดี๋ยวทางครอบครัวเราทุกคนจะช่วยกันจัดการเรื่องที่ค้างคาอยู่ให้ และก็ไม่ต้องห่วงเรื่องลูกชาย ไมเคิลหลับให้สบายนะ"
เพื่อนๆ พี่ๆ คนบันเทิงร่วมส่งกำลังใจให้เรากับทุกคนในครอบครัว ?
"ผมและครอบครัวต้องขอขอบพระคุณทุกคนมากครับ ที่เข้ามาแสดงความเสียใจ และส่งกำลังใจให้เราะเยอะมาก ทั้งจากเพื่อนๆ ในและนอกวงการ รวมไปถึงญาติผู้ใหญ่ ซึ่งผมเองก็ซาบซึ้งนะครับที่ได้เห็นว่าทุกคนให้ความสำคัญกับไมเคิลขนาดนี้ เขาเป็นคนที่น่ารัก และน่าเอ็นดูมากจริงๆ"
>> "ปีเตอร์ คอร์ป" สุดเศร้า มะเร็งกระเพาะอาหารพรากชีวิตน้องชาย "ไมเคิล" ไปอย่างไม่มีวันกลับ
>> "ปีเตอร์" สุดกลั้นน้ำตากอดลูกร้องไห้สูญเสียน้องชาย "พลอย" อดีตภรรยาเคียงข้างให้กำลังใจ
>> "ปีเตอร์ คอร์ป" และ 6 ผลงานเพลงที่ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มฮอตขวัญใจสาวๆ
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ