กูเกิลไล่ 4 พนักงาน อ้างทำข้อมูลรั่วไหล ผู้ประท้วงเชื่อโดนหมายหัวใส่ความ
หลังเผชิญการประท้วงโดยพนักงานราว 200 คน 'กูเกิล' ไล่พนักงานออก 4 คน โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาเผยแพร่ข้อมูลภายในออกนอกบริษัท ทว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเชื่อว่านี่เป็นข้ออ้างการตอบโต้การประท้วงนโยบายของกูเกิลซึ่งผิดกฎหมายสหรัฐฯ
สืบเนื่องจากวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พนักงานกูเกิลและผู้สนับสนุนราว 200 คน รวมกันชุมนุมหน้าสำนักงานกูเกิลในซานฟรานซิสโก เพื่อประท้วงการสั่งพักงานพนักงานสองคน รีเบกกา ริเวอร์ส และลอเรนซ์ เบอร์แลนด์ ภายหลัง จึงได้มีการเผยว่ากูเกิลไล่พนักงานทั้งสองคนออกแล้ว พร้อมผู้ร่วมประท้วงอีก 2 คน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าในวันที่ 25 พ.ย. ทางกูเกิลได้ส่งอีเมลชี้แจงการตัดสินใจครั้งนี้ให้กับพนักงานทุกคน โดยให้เหตุผลในการไล่พนักงานทั้ง 4 ออก ว่าเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยของข้อมูลบริษัท
ในบันทึกข้อความของทีมสืบสวนและรักษาความปลอดภัยกูเกิล ระบุว่าเร็วๆ นี้มีการเผยแพร่ข้อมูลภายในบริษัทสู่ภายนอกเพิ่มมากขึ้น และพนักงานทั้ง 4 คนก็มีการกระทำผิดนโยบายด้านความปลอดภัยของข้อมูลซ้ำหลายครั้ง โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้นหา เข้าถึง และกระจายข้อมูลที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการทำงานของตัวเอง และยังคงมีพฤติกรรมเช่นเดิมซ้ำแม้จะได้รับการเตือนถึงนโยบายด้านความปลอดภัยข้อมูลของบริษัทแล้วก็ตาม อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้รวมด้วยกับอีเมล์ภายใน และข้อมูลคำอธิบายลักษณะงานของกูเกิลอย่างผิดๆ ถูกเผยแพร่ออกสู่ภายนอกองค์กร
ทางกูเกิลยืนยันกับทางบลูมเบิร์กและเดอะเวิร์จว่าเนื้อหาในบันทึกข้อความนี้เป็นของจริงจากทางองค์กร อย่างไรก็ตาม กลุ่มพนักงานกูเกิลผู้ประท้วงไม่เชื่อคำชี้แจงเหตุผลการไล่ออกนี้ แต่มองว่าเป็นความพยายามในการขจัดแอคทิวิสต์ซึ่งไม่เห็นด้วยกับนโยบายบริษัท ซึ่งการตอบโต้เช่นนี้ผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พนักงานกูเกิลได้มีการชุมนุมประท้วงบริษัทของตัวเองในหลายวาระ ตั้งแต่การร่วมงานกับกองทัพสหรัฐฯ การสร้างเซิร์ชเอนจินกูเกิลเวอร์ชันที่มีการเซนเซอร์เนื้อหาสำหรับให้บริการในจีน และคดีที่เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศในที่ทำงานโดยผู้บริหาร
พนักงานบางส่วนยังชี้อีกว่าเมื่อเร็วๆ นี้มีการใช้เครื่องมือติดตามความเคลื่อนไหวของพนักงานผ่านเว็บเบราเซอร์ และได้มีการจ้างบริษัทให้คำปรึกษาที่ขึ้นชื่อเรื่องการต่อต้านสหภาพแรงงาน โดยเป็นความพยายามของกูเกิลในการยับยั้งความเคลื่อนไหวของพนักงานที่เป็นแอคทิวิสต์ ทว่าทางกูเกิลปฏิเสธข้อกล่าวหาในสองประเด็นนี้
กลุ่มกูเกิลวอล์กเอาต์ฟอร์เรียลเชนจ์ (Google Walkout For Real Change) ระบุผ่านแพลตฟอร์มบล็อกมีเดียม (Medium) ว่าการไล่พนักงานออกในครั้งนี้ คือการกระทำผิดกฎหมายที่กูเกิลใช้ในการตอบโต้การชุมนุมประท้วง และนี่คือการทำลายเสียงของพนักงานที่พยายามรวมตัวกันในลักษณะของสหภาพแรงงาน
ทางกลุ่มยังชี้อีกว่าเดิมวัฒนธรรมองค์กรของกูเกิลนั้นเปิดให้มีการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ ทั้งยังสนับสนุนให้พนักงานทำด้วย ทว่ากูเกิลได้เปลี่ยนนโยบายที่เกี่ยวข้องใหม่หลังมีการจ้างบริษัทต่อต้านสหภาพแรงงานมาปรึกษา ทว่าไม่มีข้อกำหนดชัดเจนว่าข้อมูลเอกสารชุดใดบ้างที่ห้ามเข้าถึง ทางกลุ่มสรุปว่านี่เป็นการแก้นโยบายเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการต่อต้านการรวมกลุ่มชุมนุม
"ด้วยการใช้นโยบายนี้ กูเกิลทำทุกวิถีทางเพื่อใส่ความเพื่อนร่วมงานของเราว่าเป็นผู้ปล่อยข้อมูลรั่วไหล มันเป็นคำโกหก" กูเกิลวอล์กเอาต์ฟอร์เรียลเชนจ์ ระบุ
ทางด้านสองพนักงานต้นเรื่องผู้ถูกสั่งพักงานไปก่อนจะถูกไล่ออกนั้น รีเบกกา ริเวอร์ส ระบุว่าถูกกูเกิลหมายหัวจากการประท้วง สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ซึ่งกำลังทดสอบการใช้ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลคลาวด์อยู่
ส่วนลอเรนซ์ เบอร์แลนด์ นั้นได้มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องในการประท้วงนโยบายของยูทูบที่มียังเอื้อให้มีเฮตสปีช (hate speech) หรือข้อความสร้างความเกลียดชัง
ทั้งนี้ กฎหมายแรงงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ห้ามมิให้บริษัทตอบโต้การกระทำร่วม (collective action) อย่างการชุมนุมประท้วงบริษัทโดยพนักงาน