ผู้การโร่แจงยิบ โซเชียลวิจารณ์เละ ตำรวจกุสุมาลย์ไปตั้งด่านถนนท้องนา

ผู้การโร่แจงยิบ โซเชียลวิจารณ์เละ ตำรวจกุสุมาลย์ไปตั้งด่านถนนท้องนา

ผู้การโร่แจงยิบ โซเชียลวิจารณ์เละ ตำรวจกุสุมาลย์ไปตั้งด่านถนนท้องนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ออกโรงชี้แจงดราม่าสนั่นโซเชียล ตำรวจ สภ.กุสุมาลย์ ตั้งด่านอยู่ถนนริมท้องนา โดยคอมเมนต์ถล่มเละ

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊กสถานีตำรวจ สภ.กุสุมาลย์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพประกอบการกวดขันวินัยจราจร โดยการตั้งด่านบนถนนสายรอง สายบ้านบอน-บ้านเมืองเก่า ต.นาโพธิ์ อ.กุสุมาลย์ สภาพถนนทั้งสองฝั่งมีแต่ท้องนา พร้อมระบุข้อความในลักษณะ ขออภัยในความไม่สะดวก ถนนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ จึงแนะนำให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหมวกนิรภัย และคาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้ชาวโซเชียลต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา

ล่าสุด พลตำรวจตรีนิพนธ์ พิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ได้ออกมาชี้แจงว่าสาเหตุดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นคำสั่งของตนได้ประชุมร่วมหลายฝ่ายในจังหวัด เนื่องจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นแบบน่าตกใจ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 31 ราย และเดือนพฤศจิกายนนี้ ยังไม่ทันหมดเดือน พบเสียชีวิตไปแล้วถึง 35 ศพ

โดยเฉพาะในถนนสายรองเป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น จากการประชุมหลายฝ่ายจึงต้องให้มีการลงไปคุมเข้มในถนนสายรองมากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในทุก สภ.จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่ง โดยเฉพาะจุดที่มีการเกิดอุบัติเหตุทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต เช่น สภ.กุสุมาลย์ ได้ไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าวที่ปรากฏลงในเพจเฟซบุ๊ก ข้อเท็จจริงคือบริเวณนั้นมีอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นชาย อายุ 18 ปี ใช้ความเร็วสูงแล้วแหกโค้งไปชนกับเสาไฟเสียชีวิต เพราะไม่สวมหมวกนิรภัยและใช้ความเร็ว ก่อนที่ตำรวจจะไปทาง อบต.ในพื้นที่รับผิดชอบได้นำป้ายไปติดเตือนแล้วว่าเป็นโค้งอันตราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็ไปปฏิบัติงาน โดยวันนั้นการตั้งด่านหากพบผู้กระทำความผิดกฎวินัยจราจร เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ก็มีเพียงแค่ทำการตักเตือนเท่านั้น ไม่ได้มีการออกใบสั่งแต่อย่างใด และวันดังกล่าวก็มีรถเพียง 1-2 คัน เท่านั้นที่ขับผ่าน

ส่วนภาพถ่ายที่นำมาลงนั้น เป็นภาพระหว่างการปฏิบัติงาน จึงอยากชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบด้วยว่า ไม่ใช่ตำรวจจะจ้องจะเอาค่าปรับอย่างเดียว ไม่เว้นแม้กระทั่งทางไปหมู่บ้านตามที่ชาวโซเชียลได้ติติง เราเป็นห่วงประชาชนมากกว่าไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งใดๆ หรือหากว่าวันดังกล่าวมีใครโดนเรียกตรวจและมีการออกใบสั่ง สามารถแจ้งกลับมาที่ตนได้ เพราะข้อเท็จจริงคือไม่ได้มีการจับปรับแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook