เจ้าอาวาสคลิปนัวเนียเด็กสาว อ้างเป็นหลานแท้ๆ แตะเนื้อต้องตัวด้วยความบริสุทธิ์ใจ

จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียน และให้ข้อมูลผ่านทางสื่อ กรณีที่มีคลิปไม่เหมาะสมของพระระดับเจ้าอาวาสวัด ในพื้นที่อำภอสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดของวัดที่สามารถบันทึกภาพขณะที่พระรูปดังกล่าว มีลักษณะที่่ถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาวที่มีอายุคราวลูก และเป็นเหมือนกับเด็กสาวที่ยังอยู่ในวัยเรียนด้วย และมีภาพการให้เงินกับหญิงสาวในภาพ โดยเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่อ้างว่าเป็นชาวบ้านร้องเรียน

>> แฉคลิปเจ้าอาวาสนัวเนียเด็กสาวคากุฏิ เปลี่ยนคนไม่ซ้ำหน้า เปย์ซื้อบ้านให้อยู่หลังวัด

ทางทีมข่าวได้ติดตามจนทราบว่าวัดดังกล่าว อยู่ในตำบลยุหว่า อำเภอสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จึงได้ลงพื้นที่ติดตามเรื่อง โดยได้เข้าพบพระปลัดกฤษดา อายุ 62 ปี เจ้าอาวาส เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวทั้งนี้เจ้าอาวาสยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในวัดศรีปันเงิน และตนเองคือพระรูปที่อยู่ในคลิปภาพ แต่ในเบื้องต้นปฏิเสธว่าความสัมพันธ์กับหญิงสาวซึ่งเป็นเด็กนักเรียนในคลิปภาพนั้นไม่ได้มีสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวแต่อย่างใด แต่ว่าเด็กหญิงในคลิปภาพนั้นเป็นหลานสาวแท้ๆ โดยสายเลือดของตนเอง

ก่อนหน้านี้เด็กหญิงคนดังกล่าว เป็นลูกของน้องชายตนเองซึ่งมีปัญหาครอบครัวพ่อแม่แยกทางกันและภายหลังน้องชายของตนเองได้เสียชีวิตไป ทำให้เด็กหญิงคนนี้ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ตนเองจึงรับอาสาในการเลี้ยงดูและส่งเสียเพื่อให้ได้เรียนหนังสือ โดยให้อาศัยอยู่ที่บ้านของของญาติ และได้รับอุปการะเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือโดยให้เงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสัปดาห์ละ 300 บาท และในคลิปภาพจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวกันแต่ก็เกิดความรักแบบลูกหลาน แต่ไม่ทราบเหตุผลของผู้ที่นำภาพวงจรปิดของทางวัดเองนำไปเผยแพร่และมีลักษณะในการบิดเบือนข้อเท็จจริงไปโดยยืนยันว่าตนเองทำไปด้วยความบริสุทธ์ใจ

ทั้งนี้ก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นชาวบ้านน่าจะเป็นคนใกล้ชิดภายในวัด พร้อมกันนี้พระปลัดกฤษดา ก็ได้นำหลักฐานเป็นบัตรประชาชนมายืนยันว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวในภาพเป็นหลานแท้ๆ ของตนเองมาเปิดเผยให้กับสื่อมวลชนอย่างไรก็ตามได้รับการติดต่อจากทางสำนักพุทธจังหวัดเชียงใหม่ว่าจะมาติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อมูลความจริงให้กับทางสำนักพุทธได้รับทราบ

นอกจากนี้แล้วเจ้าอาวาสยังเปิดเผยว่าตนเองได้รับอุปการะเลี้ยงดูและส่งเสียเด็กด้อยโอกาสทั้งหญิงและชายกว่า 10 คน  ทั้งที่ส่งเรียนตามสถาบันต่างๆ และนำไปอยู่ที่บ้านของญาติที่เดียวกับหลานสาวอีกหลายคน