ไช่ อิงเหวิน ส่อเค้ากำชัยประธานาธิบดีไต้หวันสมัย 2 ชนิด "มากับดวง" โดยแท้

ไช่ อิงเหวิน ส่อเค้ากำชัยประธานาธิบดีไต้หวันสมัย 2 ชนิด "มากับดวง" โดยแท้

ไช่ อิงเหวิน ส่อเค้ากำชัยประธานาธิบดีไต้หวันสมัย 2 ชนิด "มากับดวง" โดยแท้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาวไช่ อิงเหวิน เกิดเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2499 เป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว เธอเคยเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า 2 ครั้ง และเป็นตัวแทนของพรรคเข้าชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี พ.ศ. 2559 จึงได้เป็นประธานาธิบดีไต้หวันในปัจจุบัน หลังจากที่เคยแพ้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2555

ไช่ อิงเหวินเรียนจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน แล้วไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล สหรัฐอเมริกาได้ปริญญาโททางกฎหมาย และข้ามไปได้ดุษฎีบัณฑิตจากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน ประเทศอังกฤษ แล้วกลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งของไต้หวัน

ในปี พ.ศ. 2536 ประธานาธิบดีหลี่ เติงฮุย แห่งพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นรัฐบาลไต้หวันอยู่ในเวลานั้น แต่งตั้งให้เธอเป็นประธานกรรมการร่างนโยบายว่าด้วย "ความสัมพันธ์แบบพิเศษระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน" คือความสัมพันธ์แบบเท่าเทียมกันระหว่างรัฐ 2 รัฐ หรือพูดง่ายๆ ก็คือการไม่ยอมรับนโยบาย "หนึ่งประเทศสองระบบ" ของสาธารณรัฐประชาชนจีนนั่นเอง

เมื่อปี พ.ศ. 2543 ครั้นนายเฉิน สุ่ยเปี่ยน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งไต้หวัน ได้เชิญ น.ส.ไช่ อิงเหวิน เป็นรัฐมนตรีสภากิจการแผ่นดินใหญ่ และอยู่ในตำแหน่งนี้ตราบเท่าวาระแรกของประธานาธิบดีเฉิน ต่อมาเธอจึงเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าในปี พ.ศ. 2547 และในช่วงสั้นๆ เธอได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติประเภทบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า

คะแนนท่วมท้นเลือกตั้งปี 59

นับจากนั้น เธอได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีในครั้งที่นายซู เจินชาง เป็นนายกรัฐมนตรี เธอดำรงตำแหน่งนี้จนกระทั่งคณะรัฐมนตรีลาออกยกคณะในปี พ.ศ. 2550 พอถึงปี พ.ศ. 2551 พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน จึงได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค แต่เมื่อเธอแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี พ.ศ. 2555 เธอก็ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็ดี ไช่ อิงเหวิน ได้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งประจำปี พ.ศ. 2559 อีกครั้ง คราวนี้เธอได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น และได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

จีนหาทางสกัดทุกวิธี

ครับ! ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) ได้พยายามกดดันชาวไต้หวันไม่ให้เลือก นางสาวไช่ อิงเหวิน เป็นประธานาธิบดี เนื่องจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้ามีนโยบายที่ประกาศเอกราชเป็นประเทศไต้หวันโดยไม่ยอมรับนโยบาย "หนึ่งประเทศสองระบบ" ของสาธารณรัฐประชาชนจีนมาโดยตลอด เพียงแต่ยังไม่ประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการเนื่องจากทางสาธารณรัฐประชาชนจีนขู่ว่าจะทำสงครามกับไต้หวันทันทีที่ประกาศเอกราช

แม้ว่าเมื่อ นางสาวไช่ อิงเหวิน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของไต้หวันแล้ว ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ยังคงกดดันไต้หวันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวัน โดยทางการจีนห้ามพลเมืองจีนของ 47 เมืองในจีนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไต้หวันด้วยตนเอง ส่วนการเดินทางไปไต้หวันในเชิงธุรกิจหรือการท่องเที่ยวในลักษณะกรุ๊ปทัวร์ยังคงได้รับการอนุญาต

อย่างไรก็ตาม จีนแสดงท่าทีคุกคามไต้หวันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบทางทะเลนอกชายฝั่งจีนใกล้ไต้หวัน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการข่มขู่ว่าจีนอาจใช้กำลังเพื่อรวมไต้หวันเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจีน และตามรายงานนโยบายทางการทหารจีนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาระบุว่า ไช่ อิงเหวินและคณะผู้บริหารไต้หวันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติและเสถียรภาพทางสังคมของจีน

ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วไต้หวันเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าแพ้เป็นส่วนใหญ่เป็นต้นมานั้น คะแนนนิยมของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินต้องลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเป็นครั้งที่ 2 และนายวิลเลียม ไล นายกรัฐมนตรีไต้หวันที่สังกัดพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งพร้อมคณะรัฐมนตรีทั้งหมด เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองและลดแรงกดดันต่อพรรค ซึ่งดูทีท่าว่าประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินและพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าคงต้องแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ค่อนข้างแน่นอน

ส้มหล่น "ประท้วงฮ่องกง-สงครามการค้า"

แต่แล้วการประท้วงของฮ่องกงต่อการครอบงำของสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนเป็นต้นมายืดยื้อมาจนถึงปัจจุบันร่วมครึ่งปีแล้ว แสดงให้เห็นว่านโยบาย "หนึ่งประเทศสองระบบ" ของสาธารณรัฐประชาชนจีนล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ทำให้คะแนนนิยมของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินและพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าดีวันดีคืนขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เมื่อญี่ปุ่นทะเลาะกับเกาหลีใต้และมีสงครามการค้าซึ่งร้อนแรงตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ทั้งคนญี่ปุ่นและคนเกาหลียกเลิกการท่องเที่ยวระหว่างกันและกัน แล้วหันมาเที่ยวไต้หวันแทน ประกอบกับทางญี่ปุ่นสั่งทำชิปคอมพิวเตอร์จากไต้หวันแทนเกาหลีใต้ ทำให้เศรษฐกิจก็กระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ครับ! น.ส.ไช่ อิงเหวินไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น จนเป็นที่แน่ใจได้แล้วว่าเธอคงได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันในเดือนมกราคมปีหน้า ได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อย่างสะดวกโยธินแน่นอนแบบคนขี่ดวงมาเลยละครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook