"ก้อง ห้วยไร่" เคลียร์ทุกดราม่า ถอดเขี้ยวเล็บจากเสือเป็นแมว
เป็นอีกหนึ่งคุณพ่อที่เห่อลูกเอามากๆ สำหรับนักร้องหนุ่มเสียงดีอย่าง ก้อง ห้วยไร่ ที่ตอนนี้เจ้าตัวแต่งงานและมีโซ่ทองคล้องใจเป็นลูกชายวัยกำลังน่ารักอย่าง น้องไข่เจียว ล่าสุด ก้อง ห้วยไร่ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร พร้อมเผยชีวิตหลังแต่งงานกับภรรยาคนสวย
ทำไมเป็นสายติสท์ เสร็จงานกลับท้องทุ่งอันนี้จริงไหม?
ก้อง : "ใช่ ผมว่ามันอาจจะเป็นด้วยวัยวุฒิผมด้วย ผมก็อยู่ตามท้องทุ่งท้องนาอยู่แล้ว พอได้ทำงานเจอคนเยอะๆ ความรู้สึก ที่เราเจอคนเยอะๆ อยู่แล้วทุกวัน มันก็รู้สึกเหนื่อย เหนื่อยที่จะเจอใคร เหนื่อยที่จะพูด เหนื่อยที่จะคุย"
มีคนบอกว่าก้องไม่เคยคิดว่าตัวเองดัง?
ก้อง : "ครับ มันก็ไม่รู้เหมือนกัน เวลาทำงานเข้าใจแค่ว่า ได้ทำงานหาเงินแล้วก็เลี้ยงครอบครัวแค่นั้น มันบอกไม่ถูกเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าดังคืออะไร รู้สึกแค่ว่าเวลาไปตลาดไปกินข้าวมีคนรู้จัก มีคนขอถ่ายรูป แต่ดังคืออะไร เราไม่รู้ถึงขนาดนั้น"
เริ่มต้นคุณเริ่มจากการเป็นนักร้องนักดนตรี?
ก้อง : "เริ่มต้นจริงๆ คือมาล่าฝันนี่แหละครับ ทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง กลับไปอยู่บ้านแล้วไม่เอาแล้วกรุงเทพฯ ยิ่งมาอยู่ก็ยิ่งติดหนี้ ชีวิตก็แย่ลงเรื่อยๆ กลับไปปลูกแตง ปลูกถั่ว แตงโม ทำนา ช่วงนั้นสมองมันโล่งมันไม่มีอะไรแล้ว พอสมองมันโล่ง อารมณ์กวีเกิดขึ้น ทั้งที่ครูสอนภาษาไทยผมเองยังงงว่า แต่งได้ไง แต่งเองไหม ครูไม่อยากจะเชื่อเลย ก้องเป็นคนตกภาษาไทย คือพอสมองมันโล่งอยู่ดีๆ คำกลอนคำกวีมันก็มา เพลงแรกก็คือ ไสว่าสิบ่ถิมกัน ตอนนั้นอกหัก แต่งมาทีแรกก็เป็นเหมือนคำกลอน แล้วเราก็เขียนไว้เล่นๆ แต่เวลามันนานไป ทำไมคนเอาคำนี้ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กเยอะจัง ทำไมแชร์คำ ไสว่าสิบ่ถิมกันมันเยอะจัง"
แล้วเรื่องลิขสิทธิ์ใช่เพลงนี้หรือเปล่า?
ก้อง : "จริงๆ ทุกเพลงของก้อง ห้วยไร่ สามารถนำไป ร้อง นำไปใช้แสดงหน้าเวทีได้ อันนี้กล้าพูดว่า คนแรก ที่ยอมให้เพื่อนๆ ในวงการเอาไปทำแบบนั้น แต่ ทุกวันนี้มันก็จะมีเหตุการณ์นำเพลงต่างๆ เอาไปร้อง แล้วก็ใส่ดนตรีเดิม หรือมีการดัดแปลงดนตรีนิดหน่อย คำร้องเดิม แล้วก็เอาไปปล่อยลงในช่องต่างๆ ซึ่งเค้าเรียกว่าโคฟเวอร์ แต่เป็นการสร้างรายได้ให้กับตัวเขาเอง ซึ่งตรงนั้นผมมองว่า มันเป็นการทำลายความรู้สึก ของคนสร้างงานมากๆ ในมุมของผมคนเดียวก็ได้นะครับ เคยอยากจะให้พี่พี่น้องๆ ให้เกียรติกันเยอะๆ จริงๆ เอาไปร้องตามงานตามอะไรได้เลย การนำเพลงมาทำซ้ำ เลียนแบบแล้วมาโพสต์ลงในชาแนล ของตัวเอง เหมือนเป็นผลงานของตัวเอง แล้วทุกวันนี้ คนเสพโซเชียลมันจะมีเฉพาะกลุ่ม บางคนมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่พอไปที่จุดหนึ่ง คนไม่รู้จักสักคนเลยก็มี บางคนมีคนกดไลก์ ในเฟซบุ๊ก เป็นแสนเป็นล้าน มาออกทีวีคนไม่รู้จักว่าคนนั้น เป็นใครมันก็มี แต่พอเอาเพลงไปเผยแพร่คนก็เข้าใจว่าเป็นของคนนั้นเลยก็มี"
เคยคิดจะฟ้องไหม?
ก้อง : "ไม่มี ใครจะทำอะไรผมก็ตามผมบอกตรงนี้ ผมไม่มีฟ้อง ยอมอย่างเดียว"
พอดังแล้วเสน่ห์แรง เรื่องความรักเป็นยังไงบ้างกับคุณเบล แอบหลงรักมา 11 ปีแล้วหรอ?
ก้อง : "เขาเป็นนางเอกหมอลำ ซึ่งคนทางภาคอีสาน จะรู้จัก แต่ตอนนั้นด้วยความที่ผมเป็นวัยรุ่นมีมอเตอร์ไซค์คันเดียว เงินจะเติมน้ำมันไปเที่ยวงานก็ลำบาก ต้องขอพ่อขอแม่ หรือแอบขายข้าว จะมีเงินไปดูหมอลำต้องมี 40 บาทขึ้นไป ซึ่ง 40 บาทสมัยก่อนมันเยอะมาก เราก็ไปดูหมอลำแล้วไปเจอนางเอกหมอลำ เขาบอกว่าชื่อเบล ตอนนั้นเขาเป็นเด็กใสๆ ตอนนั้นเราน่าจะอายุประมาณ 21-22 แต่ก็ไม่ได้คิดว่าฉันจะเอาคนนี้มาเป็นแฟน มันก็เหมือนคนทั่วไปที่เห็นใครแล้วรู้สึกรัก รู้สึกชอบ รู้สึกดี สวย มีเสน่ห์"
แล้วทำยังไงถึงไปรู้จักกันได้?
ก้อง : "ผ่านมา 8 ปี"
แล้วระหว่างทาง 8 ปี ความเจ้าชู้ของเราเป็นยังไงบ้าง?
ก้อง : "ต้องบอกตรงๆ เลยว่าเป็น ผู้ชายเรื่องความรักไม่สีเทาก็สีดำ กว่าจะมีทุกวันนี้ ก็คิดว่าชีวิตโสดแล้วมีความสุขอยากจะทำอะไรก็ทำได้ ผลสุดท้ายมันทำร้ายจิตใจของใครบางคน หรือหลายคน ก็ต้อง ขอโทษด้วยนะครับ ก็เอาเป็นว่าขออโหสิกรรมแล้วกันนะครับ ยอมรับว่าตัวเองเจ้าชู้"
กับคุณเบลจีบเขายังไง?
ก้อง : "เขาทักมาหาก่อน ทางข้อความเฟซบุ๊ก เพราะตอนนั้นผมโพสต์ไปในเฟซบุ๊ก ว่าเพลงของก้อง ห้วยไร่ สามารถนำไปร้องหารายได้ โดยที่ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์แม้แต่บาทเดียว ซึ่งเขาก็ทำงานอยู่ในวงเสียงอีสาน แล้วเสียงอีสานก็อยากถามว่าไม่เก็บจริงๆใช่ไหมก็เลยให้เบลติดต่อมา ผมก็ไปดูก็ตกใจ ผมก็บอกว่าให้ลิขสิทธิ์ไปแล้วไม่ให้เบอร์กลับมาหรอ หลายเดือนอยู่กว่าเขาจะยอมให้ เราก็จีบเลยแต่ไม่ได้จีบเหมือนวัยรุ่นด้วยความที่ ตอนนั้นผม 30 ไปหาพ่อกับแม่เขาที่บ้าน แล้วตรงไปหาแม่นกน้อย อุไรพร พี่เขาเคารพ ผมก็บอกว่าแม่นกผมรักคนนี้แล้วอยากจะแต่งงาน แล้วผมอยากมีลูกกับเขา เขาก็ถามผมเหมือนกันนะว่าไม่กลัวกระแสหรอ ผมกลัวว่าตอนนี้ก็มีคนอยากรู้เรื่องผมก็ใช่อยู่ พอผมไม่ดังสิ พอผมแก่ตัวมา พอป่วย ใครจะตักน้ำให้ผมกิน อันนี้ไม่ได้พูดให้แฟนคลับตัวเองนะ แฟนคลับผมก็มีที่ติดตาม ถึงตอนนั้นเขาก็มีครอบครัวคงไม่มีเวลาตอนก้อง ห้วยไร่ ป่วย ตอนแก่คงไม่มีใครเอาน้ำ เอายามาให้ผมกิน ต้องเป็นลูก เป็นเมีย ผมนี่แหละ ผมก็เลยต้องมีครอบครัว"
รักอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้?
ก้อง : "เขาให้ความเป็นเราอยู่ แล้วก็ความแฟร์ต่อกันมาก ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมรักเขามาก แล้วอยาก แต่งงานกับเขา อยากมีลูกกับเขา ทั้งที่แบบเราก็มีคนคุยอยู่แล้ว"
แต่หลังจากที่เราเปิดตัวคบกับคุณเบลมันก็มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นเป็นยังไงบ้าง?
ก้อง : "คุยกับเบลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีใครทำร้ายเราได้นอกจากเราทำเอง ดราม่าเกิดจากอะไร เกิดจากตัวเราเอง อะไรที่ผิดเรายอมรับผิด อะไรที่ไม่ผิด เราไม่ต้องเถียง"
ภรรยาทำให้เราจากเสือกลายเป็นแมวอันนี้จริงไหม?
ก้อง : "จริงครับ เมียผมดุมาก เขาปล่อยเรื่องความคิด แต่เรื่องความรักคุณต้องหยุดที่เบลและไข่เจียว เขาเป็นคนขี้หึง แต่มันก็ดีมันทำให้เรากระตุ้นตัวเองว่าปล่อยไม่ได้นะ เรามีครอบครัวแล้ว"
อย่างนี้ถือว่าเราหยุดเจ้าชู้เพราะผู้หญิงคนนี้ได้ไหม?
ก้อง : "ทั้งผู้หญิงคนนี้และตัวเล็กๆ คนนั้น น้องไข่เจียวเป็นเด็กที่ผมทำไมรักเขาได้ขนาดนี้ ผมเคยคิดกับตัวเองแล้วก็ สอนคนในบ้านว่าจริงๆเราต้องให้เขาโตขึ้นมาแล้วเข้มแข็ง เงินทองที่เรามา ที่เราหาได้มันก็ต้องเป็นของเราที่ต้องใช้ เขาโตมาเขาก็ต้องหาเอง ไม่เป็นภาระเรา ไม่เป็นภาระสังคม แต่พอมีเข้าจริงๆ ไม่ได้กลัวเขาลำบาก ทำงานเยอะ รับงานเยอะ เพื่ออยากต่อยอดให้เขาโตขึ้นแล้วไม่ลำบาก เพื่ออนาคตของเขา"
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ