ปิยบุตร โพสต์คลิปเล่าเหตุสภาฯ ล่ม 2 ครั้งติด เพราะรัฐบาลแพ้โหวตแต่ไม่รู้จักแพ้

นายปิยบุตร แสงกนกกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์คลิปลงในเพจ Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล วันนี้ (30 พ.ย.) เล่าถึงเหตุการณ์ที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่ม 2 ครั้งติดเมื่อคืนวันพุธ (27 พ.ย.) และช่วงสายวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) 2 ครั้งติดต่อกัน ว่าเป็นเพราะ ส.ส. ฝั่งรัฐบาลลงคะแนนแพ้ฝั่งฝ่ายค้าน แต่ไม่รู้จักแพ้ เพราะผู้ใหญ่ในรัฐบาลมีคำสั่งมาว่าห้ามแพ้

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่รายนี้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เป็นการลงคะแนนเพื่อจะตั้งหรือไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ในยุคหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว จะมีอำนาจเพียงแค่ศึกษาผลกระทบเท่านั้น ไม่มีอำนาจดำเนินคดีกับผู้ก่อรัฐประหารแต่อย่างใด

เล่าเหตุการณ์ สภาฯ ล่ม 2 ครั้งติด

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาลงคะแนน ส.ส. ที่เห็นด้วยกับการลงคะแนนครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายค้าน มี 234 เสียง ขณะเดียวกันเสียงของฝั่งไม่เห็นด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายรัฐบาล มีเพียง 230 เสียง เท่ากับว่าจะได้ตั้งคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว

แต่แล้ว คะแนนที่ห่างกันไม่ถึง 25 คะแนน เปิดช่องให้ ส.ส. ทักท้วงให้ "นับคะแนนใหม่" ได้ ทำให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลใช้สิทธิ์นั้น ปัญหาก็คือ การนับคะแนนใหม่นี้ไม่ใช่การนำข้อมูลการกดปุ่มจากเครื่องมาดู แต่เป็นการขานชื่อและพูดว่าจะลงคะแนนให้กับฝ่ายไหนทีละคน เท่ากับว่าสามารถเปลี่ยนแปลงมติที่ลงคะแนนไปแล้วได้

เหตุนี้ทำให้ฝ่ายค้านเดินออกจากห้องประชุมในช่วงกลางคืนวันพุธ (27 พ.ย.) เป็นครั้งแรก ให้จำนวน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎรขณะนั้นไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ ส.ส. ทั้งหมดที่มีอยู่ หรือทำให้ขาดองค์ประชุมนั่นเอง เพื่อหยุดกระบวนการนับคะแนนใหม่

ถึงอย่างนั้น การนับคะแนนใหม่ก็จะต้องเริ่มขึ้นอยู่ดี เพราะ ส.ส ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และมีผู้รับรองอีกด้วย จึงทำให้ต้องนับใหม่ในวันถัดมา (28 พ.ย.) ซึ่งก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ ส.ส. ฝ่ายค้านพร้อมใจกันไม่เสียบบัตรเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้องค์ประชุมไม่ครบ จนทำให้มีข่าวออกมาว่า สภาฯ ล่มติดต่อกันเป็นครั้่งที่ 2 ก็เพราะต้องการหยุดขบวนการ "แพ้แต่ไม่รู้จักแพ้ดังกล่าว"

ใบสั่งห้ามแพ้จากผู้ใหญ่ในรัฐบาล

นายปิยบุตร บอกว่า ที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลก็เคยแพ้โหวตแล้ว แต่ไม่มีปัญหาอะไร ต่างจากครั้งนี้ที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ยอม หรือเป็นเพราะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่เป็นช่องทางการสืบทอดอำนาจของผู้ก่อรัฐประหารหรือไม่ 

เหตุนี้ทำให้นายปิยบุตรยกข่าวในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับขึ้นมาอ่าน ทั้งฉบับที่ถูกมองว่าเอนเอียงเข้าข้างรัฐบาลและฉบับที่ถูกมองว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม พบว่าทั้ง 2 ฉบับรายงานว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาลมีคำสั่งว่าห้ามแพ้ในการลงคะแนนเรื่องดังกล่าวเป็นอันขาด อย่างที่หลายฝ่ายและตนตั้งข้อสังเกตจริง

ดังนั้นตนจึงเรียกร้องว่า น่าจะมีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่าการนับคะแนนใหม่จะต้องมีสาเหตุที่ระบุชัดเจนกว่านี้ และจะต้องมีข้อกำหนดที่รัดกุมกว่านี้ อย่างเช่น ให้นับคะแนนใหม่เฉพาะ ส.ส. ที่ลงคะแนนในเรื่องนั้นๆ แล้วเท่านั้น ไม่ให้ลากคนที่ไม่ได้ลงคะแนนเข้ามาเติม เพื่อให้เสียงฝ่ายตัวเอง ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน พลิกมาชนะเมื่อแพ้ไปแล้ว