หนุ่มปืนโหดยิงลุง "ตายเพราะปาก" สารภาพแค้น โดนหยามศักดิ์ศรีหลายหน
มือปืนไล่ยิงลุงวัย 53 ปี ดอดเข้ามอบตัว หลังถูกกดดันอย่างหนัก สารภาพสิ้นเพราะความแค้นถูกเหยียดหยาม กล่าวหาแม่ขายตัว-ลวนลามเมียซึ่งๆ หน้า ชักปืนกราดยิงมั่วๆ ให้กระสุนหมด
จากกรณีเหตุคนร้ายจ่อยิง นายสมคิด อายุ 53 ปี เมื่อกลางดึกของวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ชาวบ้านละแวกดังกล่าวได้ขึ้นเสียงยิงปืนดัง 2 ชุดซ้อน ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อชาวบ้านออกมาดูพบร่างชายวัยกลางคนถูกกระหน่ำยิงใส่และรถจักรยานยนต์เสียหลักอยู่ พร้อมกับพบเจอใบมีดอีโต้และด้ามตกอยู่ ตามข่าวที่เคยนำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (30 พ.ย.) พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายโสภณ หรือ ต๋อง อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุ มาดำเนินการสอบสวน หลังทางการสืบทราบว่า นายต๋อง เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นายสมคิด จากนั้นจึงได้ขอศาลออกหมายจับ และออกติดตามไล่ล่ากดดันอย่างหนัก
กระทั่งในเวลาต่อมา นายโสภณ ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.พนมสารคาม โดยญาติได้พาเข้ามอบตัว โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุใช้ปืนยิงใส่ผู้เสียชีวิตจริง ขณะที่ผู้ต้องหาไม่สมัครใจจะเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในกรณีแต่อย่างใด
>> สะดุ้งทั้งหมู่บ้าน เสียงปืนดังลั่น 2 ชุดซ้อน หนุ่มใหญ่ร่างพรุนดับข้างถนน
สำหรับสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้นั้น นายโสภณ ให้การอ้างว่า เกิดจากความโกรธแค้น เนื่องจากผู้เสียชีวิตเคยดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ของแม่ผู้ต้องหา กล่าวหาว่าเป็นโสเภณีและขายตัว ซึ่งคำพูดดังกล่าวออกจากปาก นายสมคิด ระหว่างกำลังดื่มกินเหล้าอยู่ที่บ้านของผู้ต้องหาที่เปิดเป็นร้านขายของชำ
นอกจากนี้ นายโสภณ ยังระบุว่า ยังเคยพบเห็นพฤติกรรมที่หยามใจ เพราะนายสมคิดได้ยืนขึ้นและใช้เป้ากางเกงไปถูกไถกับบั้นท้ายของภรรยาแบบต่อหน้าต่อตา ทำให้รู้สึกโกรธแค้นสั่งสมมาสักพัก ทั้งนี้ตนกับผู้เสียชีวิตไม่ได้รู้จักคุ้นเคยอะไรกันนัก เป็นเพียงคนในหมู่บ้านเดียวกัน
กระทั่งในวันเกิดเหตุ นายสมคิด ก็ยังเติมเชื้อไฟด้วยคำพูดเหยียดหยามและดูหมิ่นซ้ำเติมอีกครั้ง จึงได้ตัดสินใจนำอาวุธปืนพกของพ่อ พร้อมกับเหน็บมีดอีโต้ไปอีกเล่ม และขี่รถตามผู้เสียชีวิตออกไป เมื่อได้จังหวะจึงได้ใช้มีดฟันใส่ที่ศีรษะแต่ไม่เข้า เพราะมีดไม่คม ทำให้ปลายมีดถูกหมวกกันน็อก และด้ามมีดหักออก
เมื่อผู้เสียชีวิตไหวตัวทันก็เริ่มออกปากด่าและเยาะเย้ย รวมทั้งเหยียดหยามบุพการีเช่นเดิม ทำให้ตนตัดสินใจชักปืนที่พกมาด้วยลั่นไกใส่แบบมั่วๆ ต่อเนื่องกระทั่งกระสุนหมด ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตก็พยายามดิ้นรนวิ่งหนีตาย ตนก็หันปากกระบอกยิงไล่ตามไป จากนั้นจึงหลบหนีไป และทนแรงกดดันไม่ไหว จึงให้ครอบครัวพาเข้ามอบตัวในที่สุด
โดยหลังการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.ต.ต.ธีรพล อีกว่า ผู้ต้องหาได้มีญาติมาขอยื่นประกันตัวหรือไม่ และจะให้ประกันตัวออกไปหรือไม่ รอง ผบช.ภ.2 ตอบว่า อยู่ที่ดุลยพินิจของทางพนักงานสอบสวน และผู้กำกับการ สภ.พนมสารคาม ว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวออกไปหรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาดูแล้วว่าผู้ต้องหาจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานหรือไปทำให้รูปคดีเสียหาย และไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี ก็สามารถที่จะอนุญาตให้ประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราวออกไปได้ เนื่องจากผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามามอบตัวด้วยตนเอง โดยต้องใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดในการขอยื่นประกันตัวเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท