AI ไม่แย่งงานบุคลากรแพทย์ไทย! ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน วอนมองเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพ
นายพานนท์ สุภิรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) เมดคิวรี จำกัด บริษัทด้านเทคโนโลยี เผยว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ไม่ได้เข้ามาแย่งงานบุคลากรทางการแพทย์ไทย ตามที่หลายฝ่ายกังวล อย่างน้อยก็ในช่วงหลายปีจากนี้ และเอไอเข้ามาแทนที่คนไม่ได้ทั้งหมด เนื่องจากการตัดสินใจบางอย่างยังจำเป็น
ผู้บริหารรายนี้ของเมดคิวรี กล่าวในงานเสวนาด้านเทคโนโลยี ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จัดขึ้นในวันนี้ (2 ธ.ค.) ต่อไปว่า เอไอ จะช่วยลดงานด้านเอกสารหรือการดำเนินงานของโรงพยาบาลได้เยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น การดึงเวชระเบียนคนไข้ การอ่านลายมือแพทย์ การแนะนำยาให้คนไข้
นายพานนท์ กล่าวอีกว่า เหตุนี้จะช่วยทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีสมาธิกับการหาวิธีรักษาและบริการคนไข้ หรือทำงานในหน้าที่ของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะต้องกังวลแต่งานด้านเอกสาร
ด้านนายรัตน์ชัยนันท์ ธรรมสุจริต อาจารย์ประจำและประธานหลักสูตรวิทยาการข้อมูลเพื่อการดูแลสุขภาพ ภาควิชาระบาดวิทยาคลินิกและชีวสถิติ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นสอดคล้องกัน โดยมองว่า เอไอจะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล
นายรัตน์ชัยนันท์ มองอีกว่า เอไอไม่ใช่สิ่งน่ากลัว แต่เป็นเครื่องมือที่จะมาช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนทั่วไปด้วย อย่างเช่น การพัฒนาแชทสนทนาอัจฉริยะ (แชทบ็อต) ให้ผู้ป่วยบอกหรือสอบถามอาการ ที่จะช่วยแนะนำให้ผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคต่างๆ เพื่อพบแพทย์เฉพาะทางให้เร็วที่สุด
นายจตุภล ชวพัฒนากุล กรรมการใหญ่ฝ่ายการพัฒนาธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้ง แบ็คยาร์ด บริษัทด้านเทคโนโลยี เสริมว่า จริงอยู่ที่เอไอจะช่วยมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมาก แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับโจทย์ของโรงพยาบาลว่าต้องการแก้ปัญหาอะไร ต้องเริ่มคิดจากจุดนี้ก่อน ไม่ใช่การนำเอไอมาเพิ่มภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเพียงอย่างเดียว