ตำรวจจริง! หนุ่มซิ่งเบนซ์ป้ายแดงชนผู้หญิงเจ็บ ด่ากราด-ตบหน้ากู้ภัย
รองโฆษก ตร.แจงโชเชียลเบนซ์ป้ายแดงชนผู้หญิงเจ็บกล่าวหาโดดใส่จะตบทรัพย์ ชี้ เป็น ตร.จริงเร่งสอบยันผิดเป็นผิดไม่ช่วยเหลือ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว อ้างเป็นตำรวจขับรถเบนซ์ป้ายแดงชนผู้หญิง และกล่าวหาว่าโดดใส่รถเพื่อหวังทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณ ซ.โรงเรียนบูรพาฝั่งมุ่งหน้าหมู่บ้านกระโดน หมู่ที่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี มีผู้โดยสารรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่ามี คู่กรณีฝ่ายที่ 1. รถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 7229 จว.ตาก พบผู้โดยสารทราบชื่อ นางสุภาพ ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่จึงประสานนำตัวส่งโรงพยาบาล คู่กรณีฝ่ายที่ 2. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ เบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 6420 กทม. ผู้ขับขี่คือ นายสมชาติ
>> วิจารณ์ยับ หนุ่มอ้างเป็นตำรวจซิ่งเบนซ์ป้ายแดง ด่ากราด-ตบหน้ากู้ภัย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ นางสุภาพนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันเกิดเหตุ ทันใดนั้นได้มีคู่กรณี คือนายสมชาติขับรถยนต์เก๋งตามหลังมาได้พยายามขับแซงขึ้นด้านหน้าจึงได้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับความเสียหาย นางสุภาพผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจฯ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ต่อมาได้มีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าวพร้อมคลิปในบางช่วงว่า มีชายเสื้อขาวที่อ้างตัวเป็นตำรวจอยู่ในลักษณะมึนเมาได้มีการโวยวาย และได้ตบศีรษะเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยนั้น จากการตรวจสอบชายดังกล่าวพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง โดยขณะเกิดเหตุตำรวจรายดังกล่าวได้นั่งมากับนายสมชาติด้วย
ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยฯ รายดังกล่าว เพื่อมาสอบปากคำ และสืบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจะทำการประสานทั้งนายสมชาติฯ ผู้ขับขี่ และตำรวจรายดังกล่าว มาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
โดยหากตรวจพบว่ากระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทางอาญาและมีการรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปยังต้นสังกัด เพื่อให้ดำเนินการในทางวินัย ยืนยันผิดก็ว่าไปตามผิดไม่มีการให้ความช่วยเหลือกันอยู่แล้ว
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำในลักษณะนี้ทั้งไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฏชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี