โจ ไบเดน คู่แข่งทรัมป์ ชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐสมัยหน้า ด่าคนเห็นต่าง "ตาอ้วน" กลางวงคุย

นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ตกเป็นที่พูดถึงอีกครั้งเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) เรื่อยมาจนถึงวันนี้ (6 ธ.ค.) เมื่อตนหลุดปากตำหนิชายชาวไร่สูงอายุอายุ 84 ปีว่า "แกมันโกหก" ทั้งยังเรียกชายคนดังกล่าวว่า "ตาอ้วน" 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อชายสูงอายุคนดังกล่าววิจารณ์นายไบเดนว่า นายไบเดนแก่เกินไปที่จะเป็นประธานาธิบดี ทั้งยังวิจารณ์อีกว่านายไบเดน ส่งนายฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชาย ไปทำงานให้กับบริษัทก๊าซธรรมชาติในยูเครนในสมัยที่เป็นรองประธานาธิบดี ทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านดังกล่าว จึงสงสัยว่ามีผลประโยชน์ที่ไม่บริสุทธิ์หรือไม่

"คุณส่งลูกของคุณไปที่นั่น... เพื่อเข้าให้ถึงตัวประธานาธิบดี หรือคุณขายการเข้าถึงให้กับประธานาธิบดีเหมือนกับที่ทรัมป์ทำ"

เมื่อได้จังหวะ นายไบเดนสวนกลับทันทีว่า "แกมันโกหก มันไม่จริงเลยสักนิด" เพื่อปฏิเสธว่าลูกชายของตนไม่ได้ทำเรื่องทุจริตใดๆ ในยูเครน 

ตอกกลับร่างกายยังฟิต ไม่แก่เกินเป็นผู้นำ

ไม่ใช่แค่นั้นนายไบเดนยังใช้คำพูดที่รุนแรงตอบโต้ที่ชายคนดังกล่าวหาว่าตนอายุมากเกินจะเป็นประธานาธิบดีว่า ตนยังดูดี ไม่ได้นั่งนอนอยู่กับที่ไปวันๆ แถมยังบอกให้ชายคนดังกล่าวไปทดสอบสติปัญญาด้วย

"อยากจะรู้มั้ยว่าฉันฟิตแค่ไหน มาแข่งดันพื้นกันมั้ยล่ะ วิ่งมั้ย ต่อให้เลยว่าอยากทำอะไร หรือจะทดสอบไอคิว ก็ได้นะ"

ไม่ใช่แค่นั้นยังเรียกชายคนดังกล่าวว่า "ตาอ้วน" อีกด้วย

ชาวเน็ตมองไบเดนรับมือคนเห็นต่างไม่ดี

แม้นายไบเดนจะได้รับเสียงปรบมือจากผู้สนับสนุนเมื่อตอบโต้ด้วยถ้อยคำดังกล่าว แต่ผู้คนในโลกออนไลน์กลับมองต่างออกไป หลายคนมองว่า นายไบเดนอารมณ์ร้อนเกินไป 

ชาวเน็ตบางคนมองว่า ถ้าอยากรู้ว่านักการเมืองมีนิสัยใจคอที่แท้จริงอย่างไร ก็ให้ดูตอนที่เผชิญหน้ากับคนเห็นต่าง ซึ่งนายไบเดนล้มเหลว

ความเห็นหนึ่งบอกว่า นายไบเดนได้คะแนนเสียงจากรัฐภาคตะวันตกตอนกลาง (มิดเวสต์) น้อยแน่ๆ เพราะดูถูกรูปร่างคนอื่น จนอาจไม่ได้เป็นประธานาธิบดี เพราะคะแนนจากรัฐเหล่านี้สำคัญมาก

ขณะเดียวกัน หลายคนที่สนับสนุนนายไบเดน แย้งว่า ถ้าหากตนเจอแบบนั้นอาจใช้คำพูดที่รุนแรงกว่านายไบเดนเสียอีก การตอบเช่นนี้จึงถือว่ารับมือได้ดี 

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งเห็นตรงกันว่า แม้จะเป็นการตอบโต้ที่ได้ใจคนสนับสนุน แต่จะดึงคะแนนเสียงคนเห็นต่างไม่ได้ ทั้งยังทำให้คนที่สนับสนุน ที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้คำพูดรุนแรงและการดูถูกรูปร่างคนอื่นลังเลที่จะให้คะแนน