"ชะเว ชินเทด" นางงามเมียนมา เปิดใจรักเพศเดียวกัน คนแรกในประวัติศาสตร์มิสยูนิเวิร์ส

มิสยูนิเวิร์สเมียนมา "ชะเว ชินเทด" พูดเปิดใจที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับเวทีมิสยูนิเวิร์ส ด้วยการเปิดเผยถึงสถานะทางเพศของตัวเอง ยอมรับว่าเป็นคนในกลุ่ม LGBTQ

"ชะเว ชินเทด" (Swe Zin Htet) มิสยูนิเวิร์สเมียนมาปีล่าสุด ได้ออกมาเปิดใจถึงสถานะเพศของเธออย่างตรงไปตรงมากับสื่อชื่อดังของสหรัฐฯ เพียงแค่วันเดียวก่อนจะถึงรอบตัดสินบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยยอมรับว่าเธอรักเพศเดียวกันในกลุ่ม LGTBQ เธอเป็นเลสเบี้ยน แม้ว่าประเทศตัวเองยังไม่มีกฎหมายรองรับเรื่องนี้

ตามรายงานระบุว่า มิสยูนิเวิร์สเมียนมา ได้กล่าวให้บทสัมภาษณ์ล่าสุดกับนิตยสาร PEOPLE พร้อมกับยอมรับว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยน มีรสนิยมเรื่องความรักในเพศเดียวกัน โดยการเปิดใจของเธอในครั้งนี้ยังได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการนางงามมิสยูเวิร์ส เพราะถือเป็นสาวงามคนแรกที่ออกมาเปิดเผยสถานะทางเพศเช่นนี้ ก่อนที่จะถึงวันตัดสินผล

ชะเว ชินเทด ยอมรับว่า การเปิดเผยตัวตนของเธอในครั้งนี้ ต้องเกิดผลกระทบต่างๆ ตามมาเมื่อกลับไปยังบ้านเกิดอย่างแน่นอน แต่เธอก็ยินดีหากการเปิดใจของเธอจะเป็นแรงบันดาลใจและปลุกให้กลุ่ม LGBTQ ในเมียนมาได้ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตัวเองบ้าง

มิสยูนิเวิร์สเมียนมา ระบุว่า การดำรงอยู่ในกลุ่ม LGBTQ ในบ้านเกิดตัวเองถือว่าเป็นเรื่องยาก เพราะสังคมยังไม่เปิดรับและยอมรับ แต่เธอก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเปลี่ยนทัศนคติเดิมๆ ของคนที่บ้านเกิดในมุมมองที่พวกเขามองกลุ่ม LGBTQ ในทุกวันนี้ ทำให้เธอได้รับชื่อเล่นจากแฟนๆ นางงามว่า "ซูเปอร์แมน"

ชะเว ชินเทด ได้เล่าถึงวันที่เธอกล้าพูดเรื่องนี้ออกไปให้ครอบครัวได้รับรู้ เมื่อ 5 ปีก่อน เธอบอกว่า ครอบครัวของเธอรู้สึกหัวเสียและสับสนเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ยอมรับในตัวเธอ แต่พวกเขาก็ค่อยๆ เปิดใจและทำความรู้จัก ก่อนจะพบว่าคนในกลุ่ม LGBTQ ไม่ได้เป็นภัยและไม่ใช่มลภาวะทางสังคมตามทัศนคติของคนรุ่นเก่า

อย่างไรก็ตาม ประเทศเมียนมายังไม่มีกฎหมายรองรับเกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ และงานแต่งงานครองรักในเพศเดียวกันยังถือว่าเป็นความผิด ระบุโทษสูงสุดจำคุกถึง 10 ปี แต่มิสยูนิเวิร์สเมียนมาหวังจะมีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมบ้านเกิดของเธอในเรื่องนี้ เพราะเธอมองว่า "ความรักเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป ความรักอยู่ที่ใจของคนเสมอ"

สำหรับ ชะเว ชินเทด มิสยูนิเวิร์สเมียนมา เป็นหนึ่งในนางงามที่ได้รับความสนใจบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2019 โดยเฉพาะการนำเสนอชุดแต่งกายประจำชาติของเธอ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำนาข้าว กับชุดที่เปลี่ยนโฉมจากควายในท้องทุ่ง สู่รวงข้าวเขียวขจีงดงาม เป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่น่าจดจำในการประกวดนางงามในปีนี้