สลด! ยายจุดเตาอบยาสมุนไพร ไฟคลอกตาวัย 78 ปีป่วยอัมพาต ดับอนาถ
หญิงชราชาว จ.เชียงราย อายุ 77 ปี จุดไฟต้มยาสมุนไพรเมื่อเช้าวันนี้ (10 ธ.ค.) แต่ดันเกิดเพลิงไหม้คลอกสามีวัย 78 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพาต นอนบนแคร่เตาอั้งโล่ที่จุดไฟ ส่งผลให้เสียชีวิต ในสภาพถูกไฟเผาเป็นตอตะโก
พ.ต.ท.นเรศ โปเล็ม พนักงานสอบสวนสภ.เมือง จ.เชียงราย เผยว่า ตนได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกไฟคลอกเสียชีวิต จึงประสานเจ้าหน้าที่ให้เดินทางไปยังบ้านเกิดเหตุ พบศพนายจันทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี นอนเสียชีวิตในภาพถูกไฟเผาไม้ดำเป็นตอตะโก อยู่กับพื้น หน้าประตูเข้าตัวบ้านพร้อมกับมีแคร่ไม้ถูกเผาไหม้ด้วยและมีเตาอังโล้ซึ่งถูกจุดไฟไว้จำนวน 2 เตาวางอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด
นางคำผวน (สงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี ภรรยาผู้ตายทราบว่า นายจันทร์ผู้ตายในอดีตเป็นช่างติดตั้งเครื่องและติดฟิล์มรถยนต์ แต่เมื่อประมาณ 7 ปีก่อนเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้กลายเป็นผู่ป่วยอัมพาตครึ่งซีก โดยซึกขวาไม่สามารถใช้การได้ขยับได้เพียงซักซ้าย แต่ก็ไม่สามารถเดินเหินไปไหนมาไหนเองได้ โดยญาติต้องดูแลอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
หญิงชรารายนี้ เล่าต่อไปว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนำผู้ตายมานอนที่แคร่ไม้หน้าบ้านเพื่อทำการรมยาสมุนไพร โดยใช้สมุนไพรปูที่พื้นแคร่และใช้ผ้าห่มทับไว้อีกชั้นหนึ่งและให้นายจันทร์นอนออยู่ด้านบนเพื่อให้สมุนไพรซึมเข้าตามร่างกาย เพื่อที่การอบยาสมุนไพรจะทำให้หายจากอาการป่วยเผื่อกลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยทำเช่นนี้ติดต่อมา 2 เดือนแล้ว เช้าวันนี้ก็ทำเช่นเดิมจากนั้นตนเองก้ได้เข้าซักผ้าหลังบ้าน ช่วงเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนเสียงดังคิดว่าเป็นเสียงกลุ่มนักดื่มสุราประจำหมู่บ้าน เพราะสามีตนพูดไม่ได้ พอออกมาดูอีกทีก็พบว่าสามีถูกไฟคลอกเสียชีวิตเสียแล้ว
ตำรวจจึงได้ให้ทางกู้ภัยได้นำสพของนายจันทร์ ส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานคราะห์ เพื่อซันสูตรหาสาเหตุการตายที่ชักเจนอีกครั้ง
พ.ต.ท.นเรศ ระบุว่าเบื้องต้นสันนิฐานว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะถูกไฟคลอกเสียชีวิตเพราะไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือร่องรอยการเสียชีวิตอื่นๆ เนื่องจากภรรยาผู้ตายได้จุดเผาก่อไฟเพื่ออบยาสมุนไพร ซึ่งอาจมีสะเก็ดไฟหรือเปลวไฟไปถูกใส่ผ้าที่คลุมนอนหรือฟ้าห่ม จนเกิดการลุกไหม้แต่เนื่องด้วยผู้ตายเป็นอัมพาต ทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และเสียชีวิต ส่วนญาติก็ไม่ติดใจสังสัยการเสียชีวิต หากซันสูตรไม่พบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างอื่น ก็จะมอบศพให้กับญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป