ตำรวจหนักใจเร่งคลี่คลายปม "ฆาตกรรมเซลส์สาว" ยัดเก๋ง-ทิ้งคลองมา 3 ปี
คดีฆาตกรรมเซลส์สาวขายปุ๋ย ถูกยัดใส่รถ-ทิ้งน้ำมาถึง 3 ปี ตำรวจยอมรับคดีค่อนข้างยาก เพราะหลักฐานเลือนไปกับสายน้ำ แต่เร่งเก็บข้อมูล-เรียกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ
จากกรณีเหตุพบรถยนต์โผล่กลางคลองน้ำชัยนาท-ป่าสักใน อ.หนองโดน จ.สระบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบเป็นรถยนต์นิสสัน สีขาว สภาพเปรอะดินโคลนไปทั้งคัน กระจกด้านห้านซ้ายแตก หลังคายุบ ก่อนจะรถยกใช้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างทุลักทุเล กระทั่งพบท่อนกระดูกที่คาดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ อยู่ที่เบาะหน้าด้านซ้ายของรถ และยังพบกะโหลกศีรษะและซี่โครงส่วนอื่นๆ ปะปนอยู่ในซากรถ
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถและพบว่าผู้ที่ถือครองก็คือ น.ส.กลิ่นเกสร อายุ 36 ปี แต่ยังไม่ทราบว่าแน่ชัดว่าโครงกระดูกมนุษย์ที่พบนั้นเป็นใคร ก่อนที่ในเวลาต่อมาได้มีการญาติๆ ของ น.ส.กลิ่นเกสร เดินทางมาจาก จ.ลพบุรี เพื่อดูจุดเกิดเหตุและให้เข้าข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าซากกระดูกต่างๆ ที่พบน่าจะเป็น น.ส.กลิ่นเกสร ที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2559
ญาติของ น.ส.กลิ่นเกสร ระบุว่า ผู้สูญหายเป็นเซลส์ขายปุ๋ยอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และยังมีร้านสเต็กและร้านเช่าชุดไทยเป็นของตัวเอง แต่ได้หายตัวไปตั้งแต่ปี 2559 พร้อมกับรถยนต์นิสสันคันดังกล่าว ญาติๆ พยายามติดตามหาและไม่พบร่องรอยใดๆ รวมทั้งมีการแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท แต่ผ่านไป 3 ปีแล้วคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ญาติของ น.ส.กลิ่นเกสร ยังบอกอีกว่า แม้จะพยายามติดตามหาตัว น.ส.กลิ่นเกสร อยู่หลายปี แต่ก็ยังไม่เคยละความพยายาม ได้ไปร้องเรียนกับทางกองปราบปราม และเข้าวัดหาที่พึ่งด้วยการบนบานศาลกล่าวเอาไว้ที่วัดพระพุทธบาท และเพียงไม่นานนักก็พบข่าวว่ามีโครงกระดูกติดอยู่ในรถยนต์ที่จมอยู่ใต้น้ำ จึงเดินทางมาตรวจสอบและมั่นใจว่าน่าจะเป็นเบาะแสของ น.ส.กลิ่นเกสร ที่หายตัวไป
แม่ของ น.ส.กลิ่นเกสร เปิดเผยว่า สาเหตุที่มั่นใจว่าโครงกระดูกที่พบในรถคันดังกล่าวเป็นลูกสาวตัวเองที่หายตัวไป ก็เพราะพบอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่ยังอยู่ภายในรถ รวมทั้งเอกสารการขายปุ๋ยที่ลูกสาวใช้ทำงานอยู่ประจำ รวมทั้งพบเห็นซิลิโคนที่ลูกเคยศัลยกรรมหน้าอกตกอยู่ ขณะนี้เชื่อว่าชายสูงวัยที่ติดพันลูกสาวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้มากที่สุด เพราะก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไป ได้บอกกับตนว่าจะไปนอนที่บริษัทผลิตปุ๋ย และหลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย
ทางด้าน พ.ต.อ ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรค รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สระบุรี ยืนยันว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีหลักฐานและน้ำหนักไปในประเด็นฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากมีผ้าปูที่นอนมัดใส่ร่างผู้เสียชีวิตเอาไว้ อีกทั้งยังมีพยานแจ้งว่า ผู้เสียชีวิตได้คบหาดูใจกับชายสูงวัยที่เป็นเจ้าของกิจการปุ๋ย ก่อนจะหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาด้วย
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตนั้นยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด พร้อมกับยอมรับว่าคดีนี้ค่อนข้างยาก เนื่องจากหลักฐานต่างๆ อยู่ในรถและจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานถึง 3 ปี ทำให้ร่องรอยต่างๆ ของคดีอาจจะเลือนหายไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะพยายามรวบรวมหลักฐาน เพื่อนำไปสู่การคลี่คลายคดีให้ได้ และจะเรียกพยานบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตมาสอบสวนต่อไป