อองซานซูจี ขึ้นศาลโลก! ลั่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา เป็นแค่เรื่อง "บิดเบือน"
นางอองซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา ขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ แล้ว และให้การเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลเมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาว่า ข้อมูลที่หลายฝ่ายได้รับเป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกบิดเบือน
ผู้นำเมียนมารายนี้ บอกอีกว่า รัฐบาลเมียนมาไม่เคยใช้ความรุนแรงกับชาวโรฮิงญา ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา ซึ่งเป็นที่อาศัยของชาวโรฮิงญานั้น เกิดขึ้นจากกลุ่มนิยมความรุนแรง ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน ที่ชื่อว่ากองทัพปลดปล่อยอาระกันโรฮิงญา (อาร์ซา)
"สถานการณ์ในรัฐยะไข่ซับซ้อนและเข้าใจได้ยาก" นางอองซาน ซู จี กล่าว
"ความยากลำบากในรัฐยะไข่... สืบย้อนกลับไปได้ตั้งแต่หลายร้อยปีที่ผ่านมา และรุนแรงมาตั้งนานแล้ว อาร์ซา ได้รับอาวุธและการฝึกฝนด้านระเบิดจากกองกำลังในอัฟกานิสถานและปากีสถาน"
คาดการณ์กันว่า มีชาวโรฮิงญาราว 700,000 คนหนีไปอาศัยในประเทศบังกลาเทศ ที่มีชายแดนติดต่อกัน ตั้งแต่ปลายปี 2559 ซึ่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวรุนแรงมาก และยังเตือนว่ารัฐบาลเมียนมาเองก็หยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไม่ได้
ส่วนผู้นำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การข่มขืน และการทำลายที่อยู่อาศัยของชาวโรฮิงญาเข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในครั้งนี้ คือ ประเทศแกมเบีย ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ทั้งยังเป็นประเทศที่อยู่ในองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี)
อย่างไรก็ตาม นางอองซาน ซู จี ให้การต่อหน้าคณะตุลาการว่า เมียนมากำลังจัดการกับความขัดแย้งภายในนี้ด้วยตัวเอง ทั้งยังย้ำว่า ปัญหานี้เริ่มจากการโจมตีอย่างเป็นระบบของกองกำลังอาร์ซา