"YouTube" ประกาศเปลี่ยนนโยบาย แบนวิดีโอเนื้อหาด่าทอด้วยเรื่องเชื้อชาติ-เพศ-ข่มขู่ทำร้าย

YouTube ประกาศเปลี่ยนนโยบายเรื่องการคุกคาม โดยจะไม่อนุญาตให้มีวิดีโอที่ด่าทอใครด้วย “ลักษณะที่ได้รับการปกป้อง” เช่น เรื่องเชื้อชาติ รูปลักษณ์หน้าตา อัตลักษณ์ทางเพศ เพศวิถี หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น นอกจากนี้ ยังระบุว่าจะแบนวิดีโอที่ “ตีความได้ว่าเป็นการข่มขู่ว่าจะใช้ความรุนแรง” เช่น “ระวังตัวเอาไว้ให้ดี”

นีล โมฮัน ซีพีโอของ YouTube กล่าวกับสำนักข่าวบีบีซีว่า แม้วิดีโอหนึ่งอาจดูไม่ได้ล้ำเส้นอะไร แต่ด้วยนโยบายใหม่เรื่องการคุกคามจะทำให้ YouTube จับรูปแบบพฤติกรรมเพื่อตรวจสอบว่าเข้าข่ายการคุกคามหรือไม่ และคำร้องต่างๆ จะถูกพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป โดยพิจารณาถึงบริบทของวิดีโอแต่ละชิ้น แต่นี่จะไม่ใช่ใบเบิกทางให้คุกคามใครแล้วอ้างว่า “แค่ล้อเล่น”

โมฮันกล่าวว่า พวกเขาไม่คิดว่านโยบายใหม่จะเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก พวกเขาไม่ต้องการให้ YouTube เป็นพื้นที่ที่คนอึดอัดที่จะพูดคุยสาธารณะ เพราะกลัวจะถูกคุกคามบน YouTube

นโยบายใหม่นี้จะบังคับใช้กับทุกคน รวมถึง นักการเมือง ดารา และคนดังใน YouTube ด้วย โดยผู้ผลิตวิดีโอที่ละเมิดกฎของYouTube บ่อยๆ จะถูกจำกัดความสามารถในการได้รับรายได้จากโฆษณา วิดีโออาจถูกลบ หรืออาจถูกปิดชาแนล YouTubeไปเลย แต่จะยกเว้นกฎบางข้อให้กับการตำหนิล้อเลียนในเพลง การเดี่ยวไมโครโฟนเชิงตลกขบขัน หรือการเสียดสีที่ถูกเขียนขึ้นมา

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเดือน มิ.ย. คาร์ลอส มาซา ซึ่งเป็นผู้ผลิตวิดีโอให้กับช่อง Vox ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 6 ล้านคนเปิดเผยว่า เขาตกเป็นเป้าในการคุกคามจากสตีเวน คราวเดอร์ ยูทูเบอร์ที่จัดรายการทอล์กโชว์ ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 4 ล้านคน

มาซาทำวิดีโอรวบรวมคลิปทั้งหมดที่คราวเดอร์ล้อเลียนเขาว่า “เควียร์พูดไม่ชัด”, “เทพธิดา Vox เกย์” และ “เกย์เม็กซิกัน” ซึ่งคราวเดอร์กล่าวว่า ภาษาที่เขาใช้เป็น “การหยอกเลียนแบบเพื่อน” แต่เมื่อวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ก็ทำให้แฟนคลับของมาซาเข้าไปคุกคามมาซายิ่งขึ้น แต่ในขณะนั้น YouTube กล่าวว่า วิดีโอของคราวเดอร์ไม่จัดเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ของ YouTube แต่อย่างใด ต่อมาจึงค่อยห้ามไม่ให้คราวเดอร์ได้รับเงินค่าโฆษณา เนื่องจากมี “การกระทำชั่วร้ายอย่างต่อเนื่อง”

มีการคาดการณ์ว่า YouTube จะลบวิดีโอหลายชิ้นของคราวเดอร์ที่ละเมิดนโยบายใหม่เรื่องการคุกคาม แต่ปัจจุบันก็ดูเหมือนว่าคราวเดอร์ได้ตั้งค่าให้วิดีโอเหล่านั้นเป็นวิดีโอส่วนตัวแล้ว

หลังจากเปลี่ยนนโยบายแล้ว YouTube จึงกลับมาพิจารณาว่า จะลบคลิปวิดีโอที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกเอลิซาเบธ วอร์เรน ส.ว.พรรคเดโมแครตว่า “โพคาฮอนทัส” เพื่อโจมตีที่เธอระบุว่า บรรพบุรุษของเธอเป็นคนพื้นเมืองอเมริกัน หรือไม่ แต่ก็ตัดสินใจว่าไม่ลบคลิปนี้ เพราะเห็นว่าทรัมป์มีเจตนาโน้มน้าวกระแสจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าจะโจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยประเด็นเรื่องเชื้อชาติ

นอกจากนี้ YouTube ยังจะเพิ่มฟีเจอร์ที่จะอนุญาตให้ผู้ผลิตวิดีโอสามารถจัดการคอมเมนต์บนวิดีโอของตัวเองได้มากขึ้น ด้วยการแจ้งเตือนว่า คอมเมนต์อาจไม่เหมาะสม