ผู้ปกครอง-นักเรียน ฮือไล่ ผอ.รร.หักหัวคิว ค่าอาหารกลางวัน แฉบางวันเหลือแต่น้ำแกง

ผู้ปกครอง-นักเรียน ฮือไล่ ผอ.รร.หักหัวคิว ค่าอาหารกลางวัน แฉบางวันเหลือแต่น้ำแกง

ผู้ปกครอง-นักเรียน ฮือไล่ ผอ.รร.หักหัวคิว ค่าอาหารกลางวัน แฉบางวันเหลือแต่น้ำแกง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.62  ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านกรวด  จ.บุรีรัมย์ พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ได้รวมตัวกันถือป้ายประท้วงที่บริเวณหน้าอาคารเรียน เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบการบริหารงานของ ผอ.โรงเรียน   โดยกล่าวหาว่า ผอ.มีพฤติกรรมหักหัวคิวเงินค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ที่ได้รับการอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหัวละ 20 บาท  รวมเป็นเงินเฉลี่ยวันละ 3,700 บาท แต่ ผอ.เซ็นจ่ายค่าทำอาหารกลางวันเพียงวันละ 2,000 บาทเท่านั้น ทำให้อาหารกลางวันไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนที่มีอยู่กว่า 180 คน

ผู้ปกครองเปิดเผยว่า เด็กพากันบ่นว่ากินไม่อิ่ม บางวันข้าวก็หมด คนที่มาทีหลังก็จะเหลือแต่น้ำแกงจืดให้กิน  โดยมีคลิปที่ผู้ปกครองถ่ายภาพน้ำแกงจืดไว้เป็นหลักฐานด้วย เป็นแบบนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว ตั้งแต่ ผอ.คนดังกล่าวย้ายมาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียน เด็กนักเรียนก็พากันไปบอกพ่อแม่ผู้ปกครองว่ากินข้าวกลางวันไม่อิ่ม เมื่อมาสอบถามทางครูที่โรงเรียนก็อธิบายว่า    ค่าอาหารกลางวันที่ได้รับอุดหนุนจากทางเทศบาล ผอ.เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการเองทั้งหมด จึงไม่มีใครกล้าทักท้วง

จากกรณีดังกล่าวชาวบ้าน และผู้ปกครองจึงได้พากันมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานต้นสังกัด ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่า ผอ.บริหารงานไม่โปร่งใสมีการหักหัวคิวค่าอาหารกลางวันเด็กจริง ก็ให้ดำเนินการเอาผิดทั้งวินัยและอาญา และช่วงระหว่างการตรวจสอบก็อยากให้ย้ายออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใสในการตรวจสอบด้วย

นางสายไหม ผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ป.2 บ่อยครั้งที่หลังเลิกเรียนลูกจะกลับไปบอกว่าหนูกินข้าวไม่อิ่ม บางวันข้าวหมดเหลือแต่น้ำแกงจืด  ตนได้ยินก็ตกใจและสงสารลูก เข้าใจว่าทางโรงเรียนมีงบรัฐบาลอุดหนุนอยู่แล้วแต่ทำไมลูกถึงกินข้าวไม่อิ่ม  ถ้ารู้ว่าลูกมาโรงเรียนแล้วกินข้าวกลางวันไม่อิ่ม  ก็จะให้ลูกห่อข้าวจากที่บ้านมาเอง   ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ที่ผ่านมาตั้งแต่สมัย ผอ.คนเดิม ลูกไม่เคยไปบอกว่ากินข้าวไม่อิ่มเลย  จึงอยากให้ทางผู้หลักผู้ใหญ่ตรวจสอบด้วยว่าเกิดจากอะไร และอยากให้หาทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้เด็กทุกๆ คนได้กินอิ่ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook