“ธนาธร” มั่นใจคุมม็อบได้ ย้ำไม่ใช่เรื่องของพรรค แต่เป็นเรื่องของประชาชน
"ธนาธร" ยัน นัดชุมนุมไม่ใช่การสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศ ย้ำ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคอนาคตใหม่แต่เป็นอนาคตของประเทศ - เดินหน้าต่อ สู้ร่วมประชาชนเต็มที่
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึง การนัดชุมนุม “เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง” ในช่วงเย็นวันนี้ ว่าเป็นการกิจกรรมที่ชวนประชาชนทุกคนที่ไม่พอใจต่อ ระบอบ สืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาแสดงพลังด้วยกัน เพราะทุกคนเป็นผู้ส่งเสียงในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งใช้เวลาไม่นานประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นลักษณะ แฟลชม็อบ
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าการชุมนุมในวันนี้ จะเป็นการใช้สถานที่ที่ไม่เหมาะสมนั้น ส่วนตัวยืนยันว่า บริเวณสกายวอล์คหน้าหอศิลป์เป็นจุดศูนย์กลางที่ประชาชนสามารถเดินทางมาอย่างสะดวก และการที่จัดกิจกรรมในวันนี้ ไม่ใช่การสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศ แต่คนที่นำการเมืองมาถึงจุดนี้ที่เป็นต้นตอของความขัดแย้ง คือผู้ที่ยึดอำนาจ ตั้งแต่พ.ศ.2557 พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคอนาคตใหม่แต่เป็นเรื่องของอนาคตประชาชนทุกคน และอนาคตของประเทศ
ส่วนการนัดชุมนุมในวันนี้มีความกังวลว่าจะเกิด เหตุขัดแย้งบานปลายเป็นความวุ่นวาย และจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ ตนเองได้กำชับส.ส.ให้ดูแล รวมถึงให้ประชาชนผู้มาร่วมชุมนุมช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้เกิดความวุ่นวายและอย่าหลงเชื่อ คนที่สร้างกระแสว่าการชุมนุมวันนี้ จะมีความรุนแรง เพราะการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญการเผชิญหน้าของประชาชนนั้นเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทำให้ผู้มีอำนาจ กลับมายึดอำนาจอีกครั้ง
นายธนาธร ยังกล่าวถึง เรื่องของ การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีเงินกู้ของพรรค ว่า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล เพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ที่ปลายปากกาของผู้มีอำนาจ ยืนยันเดินหน้าต่อสู้เต็มที่ หลังจากที่ไม่ได้ทำงานในสภาก็มาต่อสู้ร่วมกับประชาชน เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย แบบสมบูรณ์
ส่วนการตั้งพรรคสำรองไว้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้ให้ความสำคัญแต่ความสำคัญคือการเดินหน้าเปลี่ยนแปลงการเมืองประเทศไทย คำว่าพรรคอนาคตใหม่ยังไม่ถูกยุบ แต่ยอมรับว่าเบื้องต้นได้มีการหารือเตรียมความพร้อมไว้บ้างแล้ว
พร้อมกันนี้ นายธนาธร ยังแสดงความคิดเห็นถึงเวทีต่อต้านคนชังชาติ ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่จัดขึ้นในวันนี้ ว่า เป็นการสร้างความเกลียดชังเพิ่มขึ้น และเป็นการพยายามเอาอดีตมาฉุดรั้งอนาคต ย้ำว่าไม่สามารถเอาอดีตมาฉุดรั้งอนาคตได้แน่นอน