"จตุพร" ฟันธง ถ้ารบ.แก้เศรษฐกิจไม่ได้ อยู่ไม่ถึงกลางปี ชี้ "อนาคตใหม่" ไม่รอด 4 ดาบ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองประจำสัปดาห์ว่า จากกรณี กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้เงินกู้กับพรรคอนาคตใหม่ เป็นดังที่ตนเคยวิเคราะห์ไว้ นายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ รอดยาก
เนื่องจาก นายธนาธร มีอย่างน้อย 4 ดาบที่ต้องเจอ ดาบแรกคือเรื่องพ้นสมาชิกภาพ ซึ่งเจอไปแล้ว ดาบที่สองคือ คือ เรื่องต่อเนื่อง จากพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.คือคุกอย่างต่ำ 1 ปี จากคดีอาญา ในศาลฎีกา แผนกเลือกตั้ง ที่ระวางโทษ 1-10 ปี ตัดสิทธิการเมืองถ้าเต็มที่ก็ 20ปี ดาบที่สาม คือ เรื่องยุบพรรค กรณีเงินกู้ และ ดาบที่สี่ เรื่องพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องเรียนเรื่องล้มล้างการปกครอง ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่จากมติ 5 ต่อ 4 รับเรื่องนี้เข้าวินิจฉัยในศาลรัฐธรรมนูญ ก็ทำให้คิดได้ไม่ยากว่าผลจะเป็นอย่างไร ตนจึงเชื่อว่าไม่รอด
ส่วนประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจตุพร กล่าวว่า ตนขอฟันธงว่า ไม่มีทางสำเร็จ แค่ตั้งกรรมาธิการศึกษาฯ ก็อธิบายได้แล้วว่า ผู้มีอำนาจไม่ต้องการแก้ และก็จะไม่ได้รับความร่วมมือจาก สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ในการแก้รัฐธรรมนูญ อีกด้วย
ทั้งนี้ ตนคิดว่า รัฐบาลนี้อย่างไรเสียก็อยู่ไม่ถึงกลางปีแน่ อยู่ที่ว่าเลือกทางเดินใด ในสามทาง ได้แก่ ยุบสภา / ยึดอำนาจ และ โยกอำนาจ นอกจากปัจจัยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ก็ยังมีปัจจัยเรื่อง สนิมเกิดจากเนื้อในตน คือความขัดแย้ง กันภายในรัฐบาลเองด้วยที่จะนำพารัฐบาลเสื่อมอำนาจ และอยู่ไม่ได้ในที่สุด
นายจตุพร ยังได้กล่าวถึงกรณี การจัดแฟลชม็อบ ที่นำโดยหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เกิดขึ้นวานนี้ (14 ธ.ค.) ว่า ตนขอแนะนายธนาธรว่า การจัดชุมนุมครั้งต่อไป ต้องระวังมากกว่านี้ ด้วยการจัดชุมนุมเช่นนี้ โอกาสที่จะถูกแทรกแซง สร้างสถานการณ์เป็นไปได้ง่าย หากจะเลือกเดินทางนี้ ก็ขอให้เตรียมตัวให้ดี หากยังคงจัดชุมนุมเช่นเดียว เกรงว่าจะสุ่มเสี่ยง