"สมคิด พุ่มพวง" ลั่นไม่กลัวตาย ตำรวจแถลงไม่พบมูลเหตุจงใจฆ่า แค่ความอดทนต่ำ

"สมคิด พุ่มพวง" ลั่นไม่กลัวตาย ตำรวจแถลงไม่พบมูลเหตุจงใจฆ่า แค่ความอดทนต่ำ

"สมคิด พุ่มพวง" ลั่นไม่กลัวตาย ตำรวจแถลงไม่พบมูลเหตุจงใจฆ่า แค่ความอดทนต่ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจแถลงการจับกุมตัว "สมคิด พุ่มพวง" ระบุไม่มีมูลเหตุจูงใจให้ฆ่า แต่ความอดทนต่ำ จึงบันดาลโทสะก่อเหตุ

วันนี้ (18 ธ.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 3 ได้นำตัวนายสมคิด พุ่มพวง หรือ คิด เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องวัย 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.322/2562 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2562 ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม 

ซึ่งหลังถูกจับกุม นายสมคิด ผู้ต้องหา บอกว่า “ไม่กลัวตาย เพราะเกิดมาตายได้ครั้งเดียว” มีอาการซึมเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีอาการสำนึกผิด

>> เกาะติดทุกประเด็นข่าว เกี่ยวกับคดี "สมคิด พุ่มพวง"

โดย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า จากการบูรณาการสืบสวนทราบว่า นายสมคิดได้หลบหนีไปในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดมหาสารคาม ก่อนจะนำรถไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์แล้วขึ้นรถไฟ ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ขบวนที่ 234 มุ่งหน้าปลายทางไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งต่อมา เวลา 10.00 น. ชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาได้บูรณาการร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ,กองบังคับการตำรวจรถไฟ ,ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าทำการจับกุมตัวนายสมคิดฯ ได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับว่า เป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับ และให้การรับสารภาพ

ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช. ภ.3 ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการหลบหนีของนายสมคิด ว่า หลังก่อเหตุได้พยายามหลบหนีไปที่อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น แล้วใช้จักรยานยนต์ของผู้ตายขับหลบหนีไปนอนพักค้างแรมอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม 1 คืน จากนั้นไปพักค้างแรมที่ รพ.บุรีรัมย์ อีก 1 คืนเพื่อหลบหนีการจับกุม โดยจอดรถจักรยานยนต์ของผู้ตายทิ้งไว้ที่ รพ.ในจังหวัดบุรีรัมย์ แล้วขึ้นรถไฟหลบหนีต่อมุ่งหน้าไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจอย่างละเอียดแล้ว รวมถึงทรัพย์สิน ,โทรศัพท์มือถือ และอาวุธมีดของนายสมคิด ที่ตรวจยึดได้ขณะจับกุม พร้อมกับให้แพทย์มาตรวจร่างกายนายสมคิด ผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อประเมินอาการทางจิตด้วย

ส่วนพฤติการณ์การก่อเหตุของนายสมคิด พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม ได้เปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาออกจากคุก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 หลังจากออกมาก็ใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งก่อเหตุครั้งที่ 6 โดยเริ่มจากการคบหาผู้ตายผ่านทางเฟซบุ๊ก จนมาอยู่กินใช้ชีวิตร่วมกันและมีโครงการจะแต่งงานกันด้วย

แต่ในวันที่ก่อเหตุ ได้ทะเลาะกันรุนแรงเนื่องจากนายสมคิด กลับบ้านดึก แล้วผู้ตายบ่นไม่หยุด จึงบันดาลโทสะแล้วลงมือฆ่า ซึ่งวิธีการทั้ง 6 ครั้ง จะใช้วิธีกดน้ำ ,เอามือบีบคอ ,ใช้ผ้ารัดคอ รวมถึงใช้สายชาร์จโทรศัพท์รัดคอเหยื่อ แต่จะไม่ใช้อาวุธปืนหรือมีด จะใช้อุปกรณ์ที่หาได้ในบ้าน ไม่ได้เตรียมอาวุธไว้ล่วงหน้าเพื่อใช้ทำร้ายหรือฆาตกรรม และไม่ใช่ประสงค์ต่อทรัพย์เป็นหลัก

ส่วนลักษณะของเหยื่อจะเป็นแฟน หรือผู้หญิงให้บริการ แล้วมีการทะเลาะวิวาทกันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนฆ่าเหยื่อในที่สุด ซึ่งแผนการหลบหนีของนายสมคิด จะเห็นว่าไร้ทิศทางและพยายามหนีให้ห่างจากจุดก่อเหตุให้มากที่สุด แต่เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการกำลังกว่า 500 นาย รวมถึงประชาสัมพันธ์ประชาชนผ่านสื่อทุกช่องทาง จึงทำให้สามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว 

>> พลเมืองดีแจ้งเบาะแสจับ "สมคิด พุ่มพวง" เผยนาทีจ้องหน้าดูแผล จำดวงตา-รอยบากแม่น
>> เปิดภาพนาทีรวบ "สมคิด พุ่มพวง" คารถไฟ คุมตัวสอบสวนที่ ศูนย์ฝึกตำรวจภูธรภาค 3
>> รู้จัก “ไซโคพาธ” (Psychopaths) อาการต่อต้านสังคมที่ "ฆาตกรต่อเนื่อง" หลายคนอาจเป็น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook