ฝังแล้ว! ร่างเด็กหญิง 3 ขวบ เหยื่อบางแก้วขย้ำดับ ย่าทำใจไม่ได้ร้องไห้จนเป็นลม

ฝังแล้วร่าง ด.ญ. 3 ขวบ เหยื่อบางแก้วขย้ำดับคาทุ่งนา ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัว ย่าทำใจไม่ได้ร้องไห้จนเป็นลมขณะทำพิธี แม่เผยยังไม่มีใครออกมายอมรับเป็นเจ้าของหมา เตรียมหารือญาติแจ้งความร้องทุกข์หวั่นลูกตายฟรี วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ 

ความคืบหน้ากรณีที่สุนัขพันธ์บางแก้วผสมพันธ์ไทยขย้ำ ด.ญ.ชุติภา หรือ น้องแตงกวา อายุ 3 ขวบ ขณะตามปู่กับย่าออกไปดูควายที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านบ้านเขว้า ม.4 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย  จ.บุรีรัมย์ จนเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (17 ธ.ค.) กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านสามารถจับสุนัขตัวดังกล่าวได้แล้ว

แต่ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งไปยังด่านกักกันสัตว์ อ.ปะคำ เพื่อเฝ้ารอดูอาการเป็นระยะเวลา 10 – 15 วัน ว่าจะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ซึ่งหากติดเชื้อจะแสดงอาการและตายลงภายใน 3 วัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

>> พ่อแม่ใจสลาย หมาเพื่อนบ้านขย้ำท้ายทอย-ลำคอ ลูกสาว 3 ขวบ ดับคาที่

ล่าสุด (19 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. วันนี้ ญาติและครอบครัว ได้นำร่างของน้องแตงกวา เหยื่อบางแก้วขย้ำเสียชีวิต ไปทำพิธีฝังที่วัดบ้านเขว้าเขาดิน ต.โคกขมิ้น ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน โดยได้นำร่างน้องบรรจุในโลงศพ แล้วก่ออิฐบล็อกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านำโลงศพลงไปวางไว้ข้างใน

แล้วใช้ดินทรายโรยด้านบนก่อนก่อปูนทับอีกชั้น ลักษณะเหมือนกับการฝัง ซึ่งเป็นความเชื่อของคนในพื้นที่เพราะหากผู้เสียชีวิตเป็นเด็กก็จะทำการฝังไว้ก่อน แล้วพออายุครบ 13 ปี ขึ้นไป ก็จะนำร่างออกมาประกอบพิธีฌาปนกิจอีกครั้ง

โดยชาวบ้านบอกว่าเป็นความเชื่อที่ทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ส่วนบรรยากาศการทำพิธีก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัว โดยเฉพาะนางบุญชื่น ย่าของน้องแตงกวา ซึ่งเลี้ยงน้องมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะพ่อแม่ไปทำงานต่างจังหวัด ก็ร้องไห้ตลอดช่วงที่ทำพิธีจนถึงกับเป็นลม เพราะทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียหลานอันเป็นที่รัก ซึ่งชาวบ้านต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเพราะเกรงจะช็อกหมดสติ 

น.ส.เจนจิราภรณ์ แม่น้องแตงกวา บอกว่า ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และวันนี้ที่ฝังร่างน้องตนก็บอกกับน้องว่าขอให้วิญญาไปสู่สุขคติ หากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดเป็นแม่ลูกกันอีก

จนขณะนี้ก็ยังไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของหมาเลย ทั้งที่มีคนเห็นสุนัขอยู่ในหมู่บ้านมาหลายปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวก็จะได้ปรึกษาหารือกันว่าจะแจ้งความร้องทุกข์หรือไม่ แต่หากสุดท้ายไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของ ลูกสาวก็คงจะตายฟรี จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาบ้าง         

ด้าน นายวินัย เกียรติกำจร ปลัด อบต.โคกขมิ้น ระบุว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นหากไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของสุนัขหรือพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีเจ้าของ ทาง อบต.ก็จะได้นำเงินกองทุนสงเคราะห์ผู้ยากไร้ของทาง อบต.มาช่วยเหลือครอบครัว พร้อมจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การเยียวยาด้วย ซึ่งเบื้องต้นทางเหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ได้มอบเงินสงเคราะห์ในเบื้องต้นแล้ว

ส่วนการทำพิธีฝังนั้น ก็เป็นความเชื่อของชาวบ้านส่วนใหญ่ในภาคอีสาน ซึ่งหากผู้เสียชีวิตเป็นเด็กก็จะทำการฝังไว้ก่อน และเมื่ออายุครบ 13 ปีขึ้นไปก็จะนำร่างออกมาทำพิธีเผาหรือฌาปนกิจตามประเพณีอีกครั้ง