พนักงานรถไฟขอพูดบ้าง โซเชียลรุมด่าขายตั๋วให้ สมคิด พุ่มพวง แค่ทำตามหน้าที่

พนักงานรถไฟขอพูดบ้าง โซเชียลรุมด่าขายตั๋วให้ สมคิด พุ่มพวง แค่ทำตามหน้าที่

พนักงานรถไฟขอพูดบ้าง โซเชียลรุมด่าขายตั๋วให้ สมคิด พุ่มพวง แค่ทำตามหน้าที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง และผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม นางรัศมี อายุ 51 ปี ได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนหลายพื้นที่ รวมถึง จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากเคยก่อเหตุฆ่าสาวหมอนวดเป็นศพที่ 5 ที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ก่อนถูกจับกุมตัวได้เมื่อปี 2548 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสมคิด ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งที่ จ.ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดที่นายสมคิด ใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แต่ล่าสุดมีกระแสดราม่า เนื่องจากได้ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำภาพวงจรปิดภายในสถานีรถไฟบุรีรัมย์ มาโพสต์พร้อมเขียนข้อความว่า “สมคิด พุ่มพวง” จริงๆ แล้วเขาควรจนมุมและถูกรวบตัวที่บุรีรัมย์ ต้องยอมรับว่าการประกาศจับและลงรูปนายสมคิด พุ่มพวง บุคคลอันตรายในโซเชียลของตำรวจ  ทำให้ประชาชนทั่วไปจำใบหน้าและตำหนิของเขาได้ง่าย  แต่สุดท้ายก็มีพลเมืองดีบนขบวนรถไฟโทรแจ้งตำรวจและจับกุมตัวได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็ได้ขึ้นรถไฟโดยสารออกจากสถานีบุรีรัมย์ไปแล้วเกือบ 4 ชั่วโมง  ถ้าเขาเกิดลงระหว่างทางก่อนถึงสถานีโคกกรวด ป่านนี้ก็ยังคงจับเขาไม่ได้ ซึ่งการโพสต์ดังกล่าว ทำให้โลกโซลเชียลต่างออกมาวิจารณ์กันเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย โดยเฉพาะพนักงานขายตั๋วสถานีรถไฟบุรีรัมย์

>> คลิปวงจรปิด "สมคิด พุ่มพวง" พรางตัวขึ้นรถไฟที่บุรีรัมย์ ทิ้งรถเหยื่อไว้หน้าโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามที่สถานีรถไฟ แต่พนักงานที่ขายตั๋วในวันนั้นไม่ได้เข้าเวร เนื่องจากช่วงกลางวันจะพนักงานขายตั๋วเข้าเวร 3 คน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.  กะกลางคืนเข้าเวรตั้งแต่เวลา 18.00 – 06.00 น.  แต่มีพนักงานขายตั๋วประจำสถานีรถไฟคนหนึ่ง  ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ในฐานะพนักงานขายตั๋วด้วยกัน ก็รู้สึกเสียใจและน้อยใจที่ถูกโซเชียลตำหนิแบบเสียหาย ทั้งขอชี้แจงด้วยว่าพนักงานทำหน้าที่ตามระเบียบข้อกำหนดของการรถไฟ โดยเฉพาะการขายตั๋วขบวนธรรมดาไม่ต้องขอดูบัตรประชาชนจากผู้ที่มาซื้อตั๋ว และในวันนั้นตามที่ปรากฎในวงจรปิดก็ใช้เวลาขายตั๋วเพียง 1 นาที  จึงไม่มีเวลาที่จะไปจ้องมองหน้าใคร โดยเฉพาะนายสมคิดที่ปิดบังใบหน้ามาอย่างมิดชิด จริงๆ แล้วก่อนที่จะมาถึงคนขายตั๋ว ผ่านเจ้าหน้าที่มาหลายฝ่าย และผ่านมาตั้งหลายจังหวัด ซึ่งจังหวัดเหล่านั้นใกล้กับจุดที่เกิดเหตุด้วยซ้ำ อยากให้สังคมเห็นใจด้วย  

ด้าน นายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ก็ออกมาชี้แจงว่า ตามที่ปรากฎในสื่อสังคมโซเชียล ว่าพนักงานสถานีรถไฟบุรีรัมย์จำหน่ายตั๋วให้กับนายสมคิด ฆาตกรต่อเนื่อง โดยไม่ตรวจสอบบัตรประชาชนและไม่สังเกตผู้โดยสารที่มาติดต่อซื้อตั๋วนั้น ในฐานะผู้รับผิดชอบ ขอชี้แจงดังนี้

1.ระเบียบของการรถไฟแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋วชั้นสามกับรถโดยสารธรรมดาและซื้อตั๋วในวันเดินทางไม่ต้องแสดงบัตรประชาชน 

2.ผู้ต้องหาใส่หมวกสวมแมสปิดใบหน้า จึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าที่ชัดเจน

3. ระยะเวลาที่มาซื้อตั๋วใช้เวลาหน้าช่องจำหน่ายตั๋วเพียง 1 นาที ซึ่งไม่มีเวลาที่จะทันได้สังเกตความผิดปกติ

4. ได้สอบถามพนักงานที่จำหน่ายตั๋วแล้ว เหตุที่ไม่ได้สังเกตและเฝ้าระวัง เพราะไม่ได้ติดตามข่าวสารจากทางสื่อต่างๆ รวมทั้งไม่ได้รับแจ้งจากผู้เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังผู้ต้องหารายนี้ด้วย 

แต่อย่างไรก็ดีสถานีรถไฟบุรีรัมย์ยินดีน้อมรับคำติชมและจะนำไปปรับปรุงการทำงานเพื่อให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจสูงสุด

>> เกาะติดทุกประเด็นข่าว เกี่ยวกับคดี "สมคิด พุ่มพวง"

                    

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook