"สนธิ" เตือนนรกข้างหน้า เชื่อ "ธนาธร" จุดแฟลชม็อบไม่ติด

"สนธิ" เตือนนรกข้างหน้า เชื่อ "ธนาธร" จุดแฟลชม็อบไม่ติด

"สนธิ" เตือนนรกข้างหน้า เชื่อ "ธนาธร" จุดแฟลชม็อบไม่ติด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สนธิ ลิ้มทองกุล สวมบทกุนซือแนะ ธนาธร ใช้วิธีแทรกซึม หยุดดันแก้ รธน. เน้นโจมตีการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แทน ชี้เล่นการเมืองไม่รอบคอบ เชื่อ ประยุทธ์ ยังไม่มีทางล้มในเร็ววันนี้ พร้อมยกตัวอย่างม็อบพันธมิตร - นปช. เคยสู้ด้วยเลือดมาแล้ว

นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ คุยทุกเรื่องกับสนธิ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคทำให้เกิดภาพคนรุ่นใหม่ พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส. 81 คนทำให้เกิดความฮึกเหิมขึ้นมาทันที ถ้านายธนาธร ไม่ตั้งพรรคการเมืองแล้วระดมคนรุ่นใหม่อยู่ข้างนอกแล้วคัดค้านสิ่งที่พรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐทำหรือใครก็ตามทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ไม่ต้องการ คนรุ่นใหม่ต้องการอะไรที่ใหม่และดี แต่นายธนาธรตัดสินใจเข้าไปในระบบ ทำให้ติดขัดที่รัฐธรรมนูญ และการเข้ามาของนายธนาธรไม่รอบคอบ ทั้งที่รู้ว่าระบอบนั้นเขาเป็นคนสร้าง กติกาเขาเป็นคนกำหนด แต่ตัวเองไม่สนใจ ทำให้เกิดช่องโหว่และนายธนาธรได้รับบาดเจ็บจากการถือหุ้นสื่อ หลุดจาก ส.ส. และจะทำให้เกิดการยุบพรรค

"ส่วนใหญ่เป็นความผิดของนายธนาธร คือยุทธวิธีการต่อสู้ของนายธนาธร ที่ไม่ใช่วิธีแทรกซึมหรือใจเย็นๆ หาทางเปลี่ยนแปลง และจุดที่ผิดมากที่สุดคือเขามาเล่นในระบบ เมื่อได้เสียง 81 เสียงไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ เมื่อตัวเองเป็นพรรคฝ่ายค้านแล้ว การที่นายธนาธรวิพากษ์วิจารณ์ทหารผมเห็นด้วย แต่คิดในใจว่าทหารควรใช้เวลาขณะนี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ความไม่โปร่งใส มาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง แต่ทหารไม่ยอมปรับปรุงแก้ไข แต่ทหารบอกอย่ามาแตะต้องฉัน แตะต้องไม่ได้ มันก็เลยสร้างความชอบธรรมให้กลุ่มธนาธรมากขึ้น"

นายสนธิ ระบุว่า ตนเห็นว่านายธนาธรใช้ยุทธวิธีผิดหมด จะใช้แฟลชม็อบ ซึ่งสมัยก่อนเป็นวงดนตรีตามสถานีรถไฟ แล้วคนที่เดินเข้าสถานีรถไฟเดินเข้ามาดู เมื่อเสร็จแล้วคนก็หายไป นายธนาธรใช้แฟลชม็อบกำลังใช้โซเชียลมีเดีย

"ผมเตือนไว้ก่อนการชุมนุมแบบนายธนาธรไม่ได้ผลหรอกครับ ยังไงก็ไม่ได้ผล เพราะแฟลชม็อบก็คือแฟลชม็อบ มันไม่มีการต่อเนื่อง มันไม่เหมือนคนที่ตัดสินใจแล้วตายเป็นตาย เอาเป้ใบนึง ขวดน้ำขวดหนึ่งแล้วเดินขบวนไปด้วย ลักษณะอย่างนี้คุณธนาธรไม่กล้าทำ คล้ายๆเหมือนยุงไปกัดทีละนิด หวังว่ายุงสัก 1 ตัว 2 ตัวเป็นยุงลายทำให้คนเป็นไข้เลือดออก แต่เผอิญลักษณะยุงกัดไม่มีประโยชน์ และรัฐบาลก็ไปเติมเชื้อไฟให้กับกลุ่มคุณธนาธร เพิ่มด้วยการว่าคนนั้นจะให้สัมภาษณ์คนนี้บอกทำผิดกฎหมาย จะยุบพรรคนะ เท่ากับเพิ่มเชื้อเพลิง เพิ่มเชื้อไฟให้กับกลุ่มคุณธนาธร ทำให้เกิดความเห็นใจนายธนาธร" นายสนธิ ระบุ

นายสนธิ เชื่อว่าปี 2563 ที่นายธนาธรจะประกาศชุมนุมจะไม่เหมือนการชุมนุมของฮ่องกง เพราะคนรุ่นใหม่ในฮ่องกงและคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยเป็นคนละพวกกัน การประท้วงในฮ่องกงนั้นไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นใหม่แต่ยังรวมถึงคนรุ่นเก่าพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย แต่คนรุ่นใหม่ในประเทศไทย พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายยังจะเอากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทำให้ไม่มีเอกภาพ ซึ่งทำได้อย่างเดียวคือกวนน้ำให้ขุ่น แล้วนายธนาธรบางครั้งตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ เมื่อคนเชียร์นายธนาธรมากขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่ามีจังหวะหนึ่ง นายธนาธรลืมตัว ทำให้ช่วงหลังนายธนาธรพูดจาอะไรแล้วจะก้าวร้าวมากขึ้น นายธนาธรเคยบอกว่าในการสัมมนา ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีทางเลือก 2 ทางคือ ทางที่หนึ่งแก้ด้วยเลือด ทางที่สองแก้ด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน ตนเห็นว่าการทีนายธนาธรใช้คำว่าเลือด ทำให้กระเทือนใจต่อคนที่มีอำนาจโดยเฉพาะทหารที่มีอำนาจ เพราะทหารแปลความคิดของนายธนาธรออกมาว่านายธนาธรพร้อมจะทำให้เกิดการนองเลือด ทำให้กฐินมาลงที่นายธนาธรคนเดียว

"ถ้าเป็นพรรคมี ส.ส. คุณอย่าสู้ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องสู้ว่าการบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่โปร่งใสให้พูดย้ำทำย้ำคิดตลอดเวลา ประเทศไทยไม่ใช่คุณธนาธรและแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วทุกอย่างจะไปด้วยดี ปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีแต่ก็โดนทหารปฏิวัติ แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะทำให้ชาติไปได้" นายสนธิ ระบุ

นายสนธิ ระบุว่า "คุณธนาธรครับนรกนี่อยู่ข้างหน้า เชื่อผมสิ ผมผ่านมาหมดแล้ว ผมผ่านถึงขนาดที่เขามองว่าผมเป็นตัวอันตรายที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถกุมอำนาจได้ เขาถึงลงขันเพื่อยิงผม 200 นัด คุณยังไม่ได้ถึงตรงนั้นแม้แต่นิดเดียว เพราะคุณยังมีธุรกิจมีแม่ คิดให้ดี คิดวิธีมันมีทางสู้ มีวิธีที่คุณได้เปรียบอยู่แล้ว แต่วิธีการของคุณทำไปทำมาเพื่อตัวคุณเองเท่านั้นเอง ผมไม่ปฏิเสธพันธมิตรฯและ กปปส. หลายคนไปเข้าร่วมกับคุณ แต่คุณสู้แบบนี้เหมือนเอาหัวชนกำแพงเชื่อผม ไม่ได้ผลอย่างแน่นอน และพล.อ.ประยุทธ์ ก็เพิ่งประกาศอย่างชัดเจนว่ามั่นคง ไม่มีใครล้มเขาได้ แสดงว่าเขาต้องเตรียมการอะไรบางอย่าง แล้วคนที่มีอำนาจรัฐและคนไม่มีอำนาจรัฐ คำตอบมันมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว และไม่คิดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะจุดติด"

นายสนธิ ระบุว่า ถ้าจะสู้ด้วยเลือดก็ต้องสู้ด้วยเลือด แล้วนายธนาธรกล้าจะสู้ด้วยหรือไม่ และกล้าจะพาพันธมิตรของนายธนาธรทั้งหลายลงมาถนนเพื่อสู้ด้วยเลือดหรือไม่ ตนผ่านเลือดมาแล้ว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ก็ผ่านเลือดมาแล้ว นายธนาธรยังไมได้ผ่าน ดังนั้น ขอให้ใช้เหตุใช้ผล ถ้านายธนาธรถูกปลดจาก ส.ส. หรือหัวหน้าพรรค ให้ผลักดันพรรคการเมืองให้อยู่บนอุดมการณ์อย่างมั่นคง ให้สั่นสะเทือนต่อรัฐบาล เช่น สามารถโจมตีเรื่องการแบนสารพิษอันตราย หรือการขึ้นราคาน้ำมัน ทำให้สร้างฐานตัวเองไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ยุบสภา แต่ถ้าเดินเข้าสู่หลุมพรางของตัวเองก็จะตายด้วยปากและวิธีการของตัวเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook