นายกฯ ออสซี่ เมินโพสต์ “เกรตา ธันเบิร์ก” ปมวิจารณ์ไฟป่า
ซิดนีย์, 23 ธ.ค. (ซินหัว) — สกอตต์ มอร์ริสัน (Scott Morrison) นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเกรตา ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยการยกระดับปฏิบัติการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ท่ามกลางวิกฤตไฟป่าที่ลุกลามยืดเยื้อในประเทศ
เมื่อนายกรัฐมนตรีถูกถามถึงข้อความดังกล่าวบนโซเชียลมีเดียของธันเบิร์ก ที่เชื่อมโยงเหตุไฟป่าในออสเตรเลียกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เขายืนยันว่าเขายังคงให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของออสเตรเลีย
“ออสเตรเลียและรัฐบาลออสเตรเลียจะกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติ และสอดคล้องกับสิ่งที่ออสเตรเลียจำเป็นต้องทำ” มอร์ริสันกล่าวกับผู้สื่อข่าว ขณะออกเยี่ยมผู้อพยพในรัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.)
“เรื่องนั้นคือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมต้องออกความเห็นกับสิ่งที่คนนอกคิดว่าออสเตรเลียสมควรทำ”
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 ธ.ค.) ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมวัย 16 ปี โพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดียพร้อมเนื้อข่าวที่เกี่ยวข้องกับไฟป่าออสเตรเลีย โดยระบุคำอธิบายว่า “เกิดเหตุหายนะขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่มีการดำเนินการทางการเมืองใดๆ เลย มันเป็นไปได้อย่างไรกัน”
“ก็เพราะเรายังคงไม่รู้จักเชื่อมโยงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ กับเหตุการณ์สภาพอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ที่รุนแรงขึ้นอย่าง #ไฟป่าออสเตรเลีย“ เธอระบุข้อความพร้อมติดแฮชแท็กเป็นภาษาอังกฤษ
โพสต์ดังกล่าวของนักเคลื่อนไหว เรียกยอดไลก์ได้มากกว่า 160,000 ไลก์ และถูกแชร์ไปมากกว่า 50,000 แชร์ ทั้งยังเกิดการอภิปรายกันอย่างเผ็ดร้อนในโลกออนไลน์
ด้านมอร์ริสันกล่าวโดยมิได้อ้างถึงธันเบิร์กโดยตรง พร้อมยืนยันว่าเขาจะยังมุ่งมั่นปกป้องสภาพภูมิอากาศกับเศรษฐกิจของประเทศ
“ผมไม่ได้อยู่ตรงนี้เพื่อทำให้คนต่างประเทศพอใจ” เขากล่าว
“แต่ผมอยู่ตรงนี้เพื่อทำงานรับใช้ชาวออสเตรเลียอย่างเหมาะสมและพวกเขาก็เป็นที่หนึ่ง ซึ่งนั่นก็หมายถึงการผลักดันประเด็นสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ให้เป็นวาระสูงสุด และต้องเคียงคู่กับประเด็นเศรษฐกิจที่ประชาชนต้องพึ่งปากท้องให้เป็นวาระสูงสุดด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ เกรตา ธันเบิร์ก ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์แมกะซีน (TIME Magazine) ให้เป็นบุคคลแห่งปี และเพิ่งกลับมาจากการเดินทางทั่วโลก ซึ่งเธอได้พูดคุยกับบรรดาผู้นำระดับโลกเกี่ยวกับความสำคัญของการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเพื่อประโยชน์ของคนรุ่นหลัง