เปิดใจ แม่สาวขับกระบะชนเสาไฟฟ้า เผยหมอดูเคยทักลูกดวงตกรับเบญจเพส
ความคืบหน้ากรณีสาวขับกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มกว่า 10 ต้น แม่เผยยอมชดใช้เต็มที่ตามกำลังที่ทำได้ หมอดูทักลูกสาวเบญจเพสดวงตก เตรียมตัวบวชชีแต่ไม่ทัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าริมถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำกว่า 10 ต้น หักล้มลงมาขวางถนนสุขุมวิทสายเก่าขาเข้าตลาดปากน้ำ และล้มทับรถยนต์กระบะและรถเก๋งได้รับความเสียหายหลายคัน ส่งผลให้รถติดขัดเป็นทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (29 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลที่ นางสาวศิริประภาอายุ 25 ปี คนขับรถกระบะคันดังกล่าวพักรักษาตัวอยู่ และได้รับแจ้งว่าญาติของนางสาวศิริประภา ได้ขอย้ายโรงพยาบาลไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอีกแห่งตามสิทธิบัตรทองแล้ว
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลดังกล่าว ได้พบกับ นางสาวจริยา อายุ 23 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่เดินทางไปด้วยในวันที่เกิดเหตุ และ นางวิชุดา อายุ 44 ปี มารดาของนางสาวศิริประภา คนขับรถกระบะ
ด้าน นางวิชุดา แม่ของคนขับรถกระบะ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุตนไม่ได้ไปด้วย แต่มาทราบเรื่องหลังเกิดเหตุ ตอนที่รู้เรื่องครั้งแรกตกใจมากถึงกับทรุด และรีบเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ เท่าที่สอบถามคนที่เดินทางไปด้วยกัน เห็นว่าขากลับหลับกันหมด และลูกสาวตนที่เป็นคนขับก็น่าจะเผลอหลับด้วย
เพราะคืนก่อนเกิดเหตุลูกสาวตนได้ไปร่วมงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่ามาก่อน และกลับมาจนดึก และพอมาตอนเช้าก็ขับรถไปที่เยี่ยมแฟนที่เรือนจำคลองด่าน เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นน้องน่าจะหลับในเพราะออกจากบ้านไปตั่งแต่ 6 โมงเช้า
ส่วนมูลค่าความเสียหายก็ยังไม่ทราบว่ามากน้อยแค่ไหน แต่เห็นโลกโซเชียลประเมินกันไว้ค่อนข้างที่จะสูง ซึ่งตนก็ยังไม่รู้ว่าจะหาตรงไหนมาชดใช้ให้ และในขณะนี้ก็ถูกกระแสโซเชียลโจมตีเยอะมาก ซึ่งตนก็อยากจะบอกว่า ตนเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันก็ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเองอยู่แล้ว
"มันเป็นอุบัติเหตุ มันก็พูดไม่ออก คือแบบว่าเราก็รู้ว่าลูกเราผิด และอีกอย่างหนึ่งประกันอะไรมันก็ไม่มีที่เขาด่ามาก็มีส่วนผิด ที่เราดูแลลูกหรือว่าเราไม่ได้ควบคุมรถหรือดูแลเกี่ยวกับรถ แบบมันมีปัญหาส่วนตัวหลายอย่างที่เราต้องใช้เงิน และไม่มีเงินที่จะไปจ่ายค่าประกันด้วย แม้กระทั่งทะเบียนรถก็ขาดมาหลายเดือนแล้วยังไม่มีเงินไปต่อเลย เพราะมันจำเป็นต้องเอาเงินไปทำอย่างอื่นก่อนต้องเลี้ยงหลานและตกงานด้วย"
นางวิชุดา เปิดเผยต่อว่า อาการของลูกสาวตน ตอนนี้หมอได้บอกว่าตับและภายในช้ำหนักมากและก็มีเลือดออกในช่องท้อง ภายนอกอาจจะเห็นว่าเย็บไม่กี่ส่วนหน้าบวมตัวมีแต่รอยฟกช้ำทั้งตัว แต่ข้างในรับแรงกระแทกหนัก หมอต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด และตอนนี้น้องยังพูดไม่ได้แต่ส่วนประสาทรับรู้และตอบสนองทั้งหมด
ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวเองก็เตรียมตัวที่จะไปบวชชี เพราะเคยมีคนมาทักว่าช่วงนี้น้องดวงไม่ดีมากๆ และให้รีบไปบวชก่อนสิ้นปีนี้ และลูกสาวตนก็เตรียมตัวที่จะไปบวชหลังจากที่ไปเยี่ยมแฟนเสร็จ แต่ก็ไม่ทันแล้วมาเกิดเรื่องก่อน และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นสุดๆ และไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตน แต่หลังเกิดเหตุตนยินดีที่จะชดใช้ให้ทั้งหมดตามกำลังที่ตนมี
ขณะที่ นางสาวจริยา หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตนและเพื่อนๆ ที่เดินทางไปด้วยกันหลับตั้งแต่ นางสาวศิริประภา ขับรถออกมาจากเรือนจำแล้ว มารู้เรื่องตอนที่เกิดเหตุแล้ว และตนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า และก็เจ็บที่หน้าอกเนื่องจากแรงกระแทกตอนแรกตนคิดว่ามีรถคันอื่นมาชน แต่เพิ่งมารู้ที่โรงพยาบาลว่ารถที่ตนนั่งมาชนกับเสาไฟฟ้า
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู สมุทรปราการ กล่าวว่า หญิงสาวคนขับรถกระบะ แพทย์ได้ประเมินว่าต้องนอนรักษาตัวอีกประมาณ 1 สัปดาห์ น่าจะให้การได้ และหลังจากสอบปากคำแล้วเสร็จ คนขับน่าจะมีความผิดฐานขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินของราชการและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และยังไม่รวมกับเรื่องของการไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ.ภาคบังคับ ไม่เสียภาษีประจำปี ที่เป็นข้อหาที่ต้องแจ้งเพิ่มอีกครั้ง
>> เปิดคลิปสาวซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ซวยซ้ำรถทะเบียนขาด-ไม่มีประกัน
>> สาวซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าหัก 12 ต้น รถชาวบ้านพังระนาว ค่าเสียหายไม่ต่ำสิบล้าน