อิหยังวะ 2019 รวมข่าวท้าทายตรรกะและสามัญสำนึก มาแรงแซงทางโค้งที่สุดของปี

อิหยังวะ 2019 รวมข่าวท้าทายตรรกะและสามัญสำนึก มาแรงแซงทางโค้งที่สุดของปี

อิหยังวะ 2019 รวมข่าวท้าทายตรรกะและสามัญสำนึก มาแรงแซงทางโค้งที่สุดของปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอบปี 2562 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่คนไทยเป็นพยานต่อปรากฏการณ์ที่ต้องเกาหัว และต้องทดสอบความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลอดปีนี้มีข่าวที่ทำให้อึ้งอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นข่าวเบาๆ หริอแม้กระทั่งข่าวการเมือง ที่หลายข่าวอ่านแล้วคงนึกว่าเป็นข่าวลวง แต่กลายเป็นเรื่องจริงเสียอย่างนั้น

เลือกตั้งพิสดาร-ปรากฏการณ์บัตรเขย่ง

การเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา สร้างคำถามให้กับคนจำนวนไม่น้อยว่าเกิดตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่ประกาศในวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง และวันที่ 28 มี.ค.ไม่ตรงกัน เรื่อยไปจนถึงการประกาศคะแนนดิบทั้งประเทศ ที่คลาดเคลื่อนกับบัตรที่นับคะแนนได้ทั้งหมด ถึง 9 ใบ 

AFP/Lillian SUWANRUMPHAพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หันหน้าไปหา นายณัฎฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. ขณะแถลงข่าว เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2562

ปรากฎการณ์การเลือกตั้งสุดแปลกยังไม่หมดเท่านั้น เพราะเมื่อกฎหมายให้เวลา กกต. ประกาศผลการเลือกตั้ง รวมถึงการคำนวณคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ออกไปถึงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ก็ทำให้หลายฝ่ายสงสัยว่า ในเมื่อมีคะแนนอยู่ในมือแล้ว จะประวิงเวลาไปทำไม ซึ่งเหตุผลที่ กกต. ตอบ คือ ระหว่างเวลาเดือนกว่าๆ นั้น จะเป็นช่วงที่ต้องตรวจสอบว่าเขตใดพื้นที่ใดทุจริต เพราะต้องนำคะแนนในพื้นที่ที่มีปัญหาลบออกจากคะแนนดิบทั้งหมด เรียกได้ว่าต้องเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะนำคะแนนมาคำนวณได้

นี่ยังไม่นับว่า มีเรื่องบัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์ ที่แจกจ่ายไปนับยังเขตเลือกตั้งต่างๆ ไม่ทันเวลา ทำให้คะแนนเหล่านั้น แม้จะมีเพียงหลักพันคะแนน ก็สูญหายไปทั้งหมด ทั้งที่คนเหล่านั้นทำตามขั้นตอนทุกอย่างที่ทางการวางไว้

"ปารีณา" ครองพื้นที่สื่อ

อีกเรื่องหนึ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับวงการการเมืองไทยปี 2563 คือปรากฏการณ์ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่แย่งชิงพื้นที่สื่อได้เสมอ ส.ส. รายนี้ท้าทายตรรกะของทั้งผู้สื่อข่าวและผู้อ่านอย่างมาก หากนับเฉพาะหลังการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เธอแจ้งเกิดอย่างจริงจัง หลังจากถ่ายทอดสด (ไลฟ์) ตัวเองลงเฟซบุ๊ก โดยการตำหนินางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ว่าไม่มีมารยาทในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับเรียกเพื่อน ส.ส. รายนี้ว่า "อีช่อ" จึงทำให้คนในสังคมสงสัยอย่างมากว่า สรุปแล้วใครกันแน่ที่ต้องปรับปรุงการวางตัวในฐานะตัวแทนประชาชน

พรรคพลังประชารัฐนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ขณะอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร

หลังจากนั้น ส.ส. รายนี้ก็ยังครองพื้นที่ข่าวการเมืองได้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา และการโจมตีอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือการคอยป่วนผู้อภิปรายฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ อดีตนักการเมืองพรรคไทยรักษาชาติ ก็ขุดคุ้ยเรื่องของเธอ จนเชื่อว่า นางสาวปารีณา น่าจะครอบครองที่ดินผิดกฎหมาย แต่สิ่งที่ทำให้สื่อมวลชนงุนงง คือ เมื่อเธอมาแถลงเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่กลับไม่ตอบคำถามใดเลย เพียงแต่บอกว่า เธอเซ็นบันทึกความเข้าใจ (เอ็นโอยู) กับผู้สื่อข่าวคนหนึ่งเอาไว้ จึงพูดเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เมื่อถูกถามต่อว่าเซ็นไว้กับใคร เธอก็ตอบไม่ได้อีก ทำให้เธอเอ่ยปากขอความเห็นใจจากสื่อมวลชน

แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือ พฤติกรรมของคนในรัฐบาลต่างมีท่าทีปกป้องเธอ ทั้งที่ควรดำเนินการสอบสวน เพื่อให้เป็นตัวอย่างต่อการปราบการทุจริตและทำให้นางสาวปารีณาพ้นข้อครหาให้เร็วที่สุด แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น จนนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ถึงกับสงสัยว่า มีขบวนการที่ทำให้เรื่องนี้ล่าช้าหรือไม่

"ทรัมป์" ผู้นำสหรัฐ ตอแย "เกรียตา ธุนแบร์"

แวดวงการเมืองต่างประเทศ ก็ใช่ย่อย ซึ่งผู้ที่จัดให้อยู่ในหมวด "อิหยังวะ" ที่โดดเด่นมาแรง ก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานธิบดีสหรัฐ การที่เป็นคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก แน่นอนว่าต้องหนีไม่พ้นการจับตามองจากสื่อมวลชนทุกอย่างแน่นอน แต่การกระทำหนึ่งที่นายทรัมป์ทำให้บางคนพูดออกมาว่า "ทำทำไม" มีหลายเรื่อง หนึ่งในนั้น คือ การตามราวีนางสาวเกรียตา ธุนแบร์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน อายุ 16 ปี ผ่านโลกโซเชียลไม่เลิกรา

ที่ผ่านมา นางสาวเกรียตา เรียกร้องให้ผู้นำคนนี้เชื่อข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ว่าโลกกำลังร้อนขึ้นจริงๆ ไม่ใช่เรื่องลวงอย่างที่นายทรัมป์และผู้สนับสนุนหลายคนเชื่อ แต่เมื่อนางสาวเกรียตา พูดเกี่ยวกับปัญหานี้ที่องค์การสหประชาชาติเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด จนเป็นที่มาของวลีฮิต "How dare you? (ฮาว แดร์ ยู/กล้าดียังไง)" นายทรัมป์ ก็นำคลิปดังกล่าวของสำนักข่าวมาโพสต์ต่อในทวิตเตอร์ ประชดว่า นางสาวเกรียตาดูเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสุข

นางสาวเกรียตาจึงนำคำถากถางนี้ไปขึ้นเป็นประวัติส่วนตัวของตัวเองที่โชว์ในทวิตเตอร์เพื่อถากถางกลับ

ผู้นำสหรัฐรายนี้ ไม่ได้เลิกราแต่อย่างใด เพราะเมื่อนิตยสารไทม์ส จัดอันดับบุคคลแห่งปีเพื่อนำมาขึ้นปกประจำปีนี้ และประกาศออกมาว่านางสาวเกรียตาคว้าตำแหน่งดังกล่าว นายทรัมป์ ก็โพสต์ลงทวิตเตอร์ทำนองว่า นางสาวเกรียตาเป็นคนที่มีปัญหาด้านการจัดการความโกรธ และเช่นเคย นางสาวเกรียตาก็ประชดประชันคืนด้วยการนำคำพูดนี้ ไปขึ้นเป็นประวัติตัวเองบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ให้รู้กันไปเลยว่า ใครกันแน่ที่จัดการกับความโกรธได้ดีหรือแย่กว่ากัน

แม่ชีท้องขณะเผยแพร่ศาสนา

ยังอยู่กันต่างประเทศ แต่คราวนี้เป็นเรื่องฉาวในวงการศาสนจักร เมื่อมีการรายงานว่าแม่ชี 2 คน ที่บวชเรียนอยู่ยุโรป และกลับไปเผยแพร่ศาสนาที่บ้านเกิดในแอฟริกาตั้งท้อง โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำใหัคริสตจักรโรมันคาทอลิกต้องตั้งทีมสอบสวนกันยกใหญ่ เพราะมองว่าแม่ชีควรถือพรหมจรรย์อย่างเคร่งครัด

ประเด็นดังกล่าวเป็นที่ตกตะลึงแก่ผู้คนทั้งในและนอกคริสตจักร และก็ตั้งคำถามอีกเช่นกันว่า เมื่อนักบวชชายล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายตามที่เป็นข่าวหลายครั้ง คริสตจักรสอบสวนเข้มงวดเหมือนกรณีที่แม่ชีเหล่านี้เผชิญหรือไม่

แฉเจ้าสาวในงานแต่ง

มาแรงแซงทางโค้งจริงๆ ข่าวนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานเกิดขึ้นไม่นานที่ประเทศจีน เมื่อสำนักข่าวแอปเปิ้ลเดลี่ รายงานว่า คู่รักคู่หนึ่งกำลังเข้าพิธีวิวาห์ชื่นมื่น และเมื่อเปิดคลิปพรีเซนเทชัน แขกในงานต่างรอชมคลิปที่แสดงความรักของทั้ง 2 คน แต่เมื่อเปิดคลิปกลับเห็นภาพที่สร้างความตตพลึง เพราะเป็นคลิปที่เจ้าสาวมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพี่ชายของเจ้าบ่าว

คลิปนี้ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ของจีนอย่าวแพร่หลาย และสร้างกระแสวิจารณ์อย่าหนีก จนภายหลังถูกลบออกไปจากโลกโซเชียล เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อความสงบเรียบน้อยและศีลธรรมของสังคม

 

มือถือเลนส์ระยะไกล ส่องเห็นคนอมไมค์ทองคำ

เทคโนโลยีในปี 2019 ทำให้กล้องโทรศัพท์มือถือซูมวัตถุในระยะไกลได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่คุณสมบัตินี้ ทำให้ข่าวสุดตะลึงนี้เกืดขึ้นมา

เจ้าของโทรศัพท์มือถือเลนส์ซูมนี้ถ่ายคลิปในเทศกาลดนตรีแห่งหนึ่งในสหรัฐ และพบว่าในกระเช้าชิงช้าสวรรค์กระเช้าหนึ่งภายในงาน มีคนสองคนทำบางอย่างที่น่าสนใจ เพราพหนึ่งในนั้นกำลังก้มลงใช้ปากงับวัตถุลักษณะเป็นแท่งที่ออกมาจากปากของอีกคนอย่างเป็นจังหวะ

คลิปดังกล่าวถูกแชร์และส่งต่อในโลกออนไลน์จนเป็นที่พูดถึงอย่างมาก หนึ่งในประเด็นนั้นคือการซูมวัตถุระยะไกล ที่อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกถ่าย แต่ก็มีการถกเถียงจากอีกมุมหนึ่งว่า ภาพที่นำมาเผยแพร่ไม่เห็นใบหน้าของผู้ที่ถูกถ่ายชัดเจนนัก จึงไม่มีอะไรให้กังวล แต่ในทางกละบกัน ถ้าชัดจนรู้ตัวตนผู้ถูกถ่าย ก็อาจเป็นอีกกรณีที่ต้องถกเถียง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook