สาวเตือนภัย "หมึกบลูริง" พิษร้ายกว่างูเห่า เอามาทำกับข้าว แต่เคยเห็นในสารคดี
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Faii Sirirat” ได้ออกมาโพสต์เตือนภัยชาวโซเชียลมีเดียในกลุ่ม “Tak city” พร้อมข้อความระบุว่า “สวัสดีค่ะ พอดีซื้อปลาหมึกในร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก หากใครพบเห็นหมึกชนิดนี้ ไม่ควรรับประทานนะคะ หมึกชนิดนี้ชื่อว่าบลูริงค่ะ พิษของมันอันตรายถึงชีวิต ปีใหม่นี้ระวังกันด้วยนะคะ ปล.ไม่ได้มีเจตนาทำให้ร้านเสียหาย แต่โพสต์เตือนให้คนซื้อสังเกตในการเลือกซื้อสินค้าคะ”
หลังจากมีการโพสต์เตือนภัยไปมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อเรื่องราวกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ (3 ม.ค.62) น.ส.ศิริรัตน์ แสงสี อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร สาขาวิชาพืชศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก เจ้าของโพสต์เตือนภัยปลาหมึกบลูริง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ปีที่ผ่านมา ตนกลับบ้านไปฉลองปีใหม่ที่บ้านเกิด จ.ตาก และเตรียมไปซื้อหาอาหารมารับประทานกันในครอบครัวเพื่อฉลองวันปีใหม่ โดยไปซื้อกุ้ง ปลาหมึก ที่ร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ตาก
แต่เมื่อนำกลับมาประกอบอาหารช่วงเย็น และล้างทำความสะอาดเอาไส้ปลาหมึกออก พบว่ามีปลาหมึกอยู่หนึ่งตัวที่มีความผิดปกติ คือ ตามตัวมีจุดวงแหวนสีน้ำเงินคล้ายกับเป็นปลาหมึกพิษสายวงน้ำเงินที่เคยดูในสารคดีสัตว์โลกใต้น้ำ จึงรีบไปเปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตปรากฏว่าเป็นชนิดเดียวกันที่ชื่อว่า “หมึกบลูริง”
ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะมีลูกค้าซื้อไปบริโภค ก่อนหน้านี้ จะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะ ปลาหมึกชนิดนี้มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า ทำลายระบบประสาทอาจเสียชีวิตทันทีอย่างฉับพลัน จึงไปโพสต์เตือนภัยในกลุ่มโซเชียลมีเดีย พร้อมกับโทรบอกที่ร้านที่ซื้อมาว่า พบปลาหมึกมีพิษ ซึ่งทางร้านอาหารทะเลก็ขอโทษ แต่ตนก็อยากให้ตรวจสอบให้ดีก่อนจะนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคอีกด้วย ซึ่งครั้งแรกตนเองยังไม่ทราบจึงได้ลองจับดูก็พบว่าแสบๆ ร้อนๆ ที่มือก็รู้สึกหวาดผวาจึงนำไปทั้งหมดไม่นำมารับประทานแต่อย่างใด
ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลว่า หมึกชนิดนี้มีพิษร้ายแรงมาก อย่ากินเด็ดขาด พิษหมึกจะอยู่ในน้ำลายและตามเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ทั่วร่าง เมื่อหมึกกัดพิษจะเข้าบาดแผล รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต พิษพวกนี้เป็น TTX (tetrodotoxin) เหมือนปักเป้า ไม่สลายเมื่อโดนความร้อน
แม้หมึกสายวงน้ำเงินจะพบในไทย แต่ยังมีปริมาณไม่มากนัก โอกาสเสี่ยงมีน้อย ส่วนอาการถ้ากินเข้าไปอาจคล้ายปักเป้า ปากชา หน้าชา หายใจไม่ค่อยออก ทางแก้คือช่วยหายใจฉุกเฉินและส่งแพทย์โดยด่วน และที่สำคัญพิษ TTX ไม่มียาแก้พิษ
>> มันกลับมาอีกแล้ว "หมึกบลูริง" โผล่ทะเลระยอง เตือนกินแล้วตาย-ไม่มียาแก้พิษ