พลังประชารัฐ ซัดกลับเพื่อไทย วิจารณ์แนวคิดนายกฯเปลี่ยนชื่อ 7 วันอันตราย
"เด็กลุง" ซัดกลับ "หมวดเจี๊ยบ" ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด สร้างวาทกรรมให้คนเกลียดชังนายกฯ งัดคดีเก่าตอกกลับให้ระวังปาก
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย วิจารณ์แนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมเสนอไอเดียเปลี่ยนชื่อเรียก 7 วันอันตรายไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดว่า ดูเหมือนว่า ร.ท.หญิงสุณิสา จะฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด แนวคิดของท่านนายกฯ ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนชื่อเพื่อแก้ไขปัญหาแต่เพียงอย่างเดียว การบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ และการสร้างจิตสำนึกวินัยจราจรของประชาชน การปรับปรุงพื้นผิวถนน มาตรการต่างๆ ต้องดำเนินการต่อไป แต่การเปลี่ยนชื่อ เป็นผลทางจิตวิทยา สร้างแรงจูงใจ ในการเปลี่ยนวิธีคิดของประชาชนให้คำนึงถึงความสุขและความปลอดภัยของครอบครัวเป็นหลักในช่วงเทศกาลดังกล่าว เป็นมุมบวกที่น่าจะสร้างการมีส่วนร่วมและจิตสำนึกมากกว่าที่ผ่านมา
ดังนั้น หน้าที่ของฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างสร้างสรรค์ นอกจากตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลแล้ว ควรนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ปัญหาอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล ไม่ใช่จ้องจับผิด เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ รวมทั้งกรณีที่นายกฯ ให้ความเห็น เรื่องคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ ที่ชอบไปจอดรอไฟแดงบังหน้ารถยนต์นั้น ก็เป็นไป เพราะความเป็นห่วงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ เหตุใดฝ่ายค้านจึงสร้างวาทกรรมเพื่อจงใจให้ประชาชนเข้าใจผิด และสร้างความเกลียดชัง
นอกจากนี้ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หากจะมีใครต้องระวังปาก ก็ควรจะเป็น ร.ท.หญิงสุณิสา มากกว่า ที่ออกมาวิจารณ์ในลักษณะที่ไม่สร้างสรรค์ และไม่ใช่แค่การพูดของร.ท.หญิงสุณิสา ที่ต้องระวัง การแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียลต่างๆด้วย เพราะ ร.ท.หญิงสุณิสา มีประสบการณ์เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีถูกดำเนินคดีจากการแสดงความเห็นทั้งข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง ตาม ม.116 และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ถึง 13 กระทงมาแล้ว