ตำรวจรวบ 2 ผู้ต้องหา มอมยาสาว-รูดทรัพย์ ผู้เสียหายปรี่ตบหน้า ตอนชี้ตัว

พล.ต.ต.สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 สอบปากคำ นายวิชัย นฤมิตสิงขร และนายสมพร แสงสุวรรณ 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในคดีชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวชาวไทย 2 คนเข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ ว่า คืนก่อนเกิดเหตุไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท22 และถูกคนร้ายทั้ง 2 คนแอบอ้างเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาตีสนิทก่อนชักชวนไปดื่มต่อที่โรงแรมแห่งหนึ่งละแวกนั้นโดยแยกห้องกัน จากนั้นให้ผู้เสียหายดื่มเครื่องดื่มบางอย่างก่อนที่จะหลับไป เมื่อผู้เสียหายตื่นมาพบว่าทรัพย์สินมีค่าเช่น เครื่องประดับ สร้อยคอทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท หายไป

ต่อมาวันที่ 25 ธันวาคม มีหญิงสาวชาวไทย 2 คนเข้าแจ้งความว่าถูกชาย 2 คนอ้างตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยรู้จักกันในโรงเบียร์แห่งหนึ่งย่านพระราม3 และชวนกันไปต่อที่ห้องพักของผู้เสียหายย่านพระราม 4  ซึ่งคนร้ายมีพฤติกรรมก่อเหตุเหมือนกับคดีแรก ลักทรัพย์ผู้เสียหายได้ทรัพย์สินไปรวมกว่า 150,000 บาท กระทั่งวันที่ 3 ม.ค.2563 ตำรวจสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายทั้ง 2 คนได้ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดา และนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ โดยทั้งสองคนรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง หลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้นตำรวจได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ หญิงสาวผู้เสียหายได้เกิดบันดาลโทสะ เข้าตบใบหน้าของผู้ต้องหาขณะเข้าชี้ตัว

ด้าน พล.ต.ต.สามารถ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อเจอเหยื่อในสถานบันเทิงจะชักชวนไปดื่มกินต่อ จากนั้นจะนำยาอัลปราโซแลม (Alprazolam) หรือ ยาเสียสาว  มีลักษณะเป็นเม็ดสีม่วงนำมาบดผสมกับเครื่องดื่มประเภทพรุนสกัดที่จะมีสีและกลิ่นคล้ายกันมาให้ผู้เสียหายดื่มก่อนที่จะลักทรัพย์สินขณะที่ผู้เสียหายหมดสติ เมื่อได้ทรัพย์สินไปแล้วนำไปฝากขายกับผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังหลบหนีอยู่ ก่อนจะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาสารภาพอีกว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ในพื้นที่ สน.พระโขนง สน.ทองหล่อ สน.คลองตัน และในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย ซึ่งตำรวจเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุมาอีกหลายครั้ง จึงอยากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายที่เคยถูกกระทำลักษณะนี้ขอให้เข้าแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันตรวจสอบประวัติ 1 ในผู้ต้องหาพบว่าเพิ่งพ้นโทษคดีปล้นทรัพย์ได้เพียง 5-6 เดือน ก่อนมาก่อเหตุซ้ำ

เบื้องต้น ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมกันนี้ ฝากเตือนภัยผู้หญิงที่ไปเที่ยวสถานบันเทิง หากพบบุคคลไม่รู้จัก หรืออ้างเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่าหลงเชื่อ เนื่องจากปัจจุบันมีการหลอกลวงในหลายรูปแบบ